สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ว่าน.ส.เมิ่ง หว่านโจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน ( ซีเอฟโอ ) ของหัวเว่ย โดยเธอเป็นบุตรคนโตของนายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท กล่าวหลังปรากฏตัวต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐในนครนิวยอร์ก ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลในเมืองแวนคูเวอร์ เมื่อวันศุกร์ ขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลแคนาดาที่ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักนิติธรรม แสดงความซาบซึ้งและขอโทษชาวแคเนเดียน "ต่อความยากลำบาก" ที่เธอได้ก่อขึ้นตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน ทายาทหัวเว่ยเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารของแอร์ ไชนา เดินทางจากเมืองแวนคูเวอร์ กลับไปยังเมืองเซินเจิ้น ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ทั้งนี้ น.ส.เมิ่งถูกควบคุมตัว เมื่อเดือนธ.ค. 2561 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์ ตามหมายจับของศาลที่นครนิวยอร์ก ว่าเธอละเมิดกฎหมายของรัฐบาลวอชิงตัน ว่าด้วยการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลเตหะราน  ด้วยการที่เธอตั้งบริษัทบังหน้าในอเมริกา เพื่อส่งออกสินค้าของหัวเว่ยไปยังอิหร่าน
เครื่องบินโดยสารของแอร์ ไชนา ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์
ในเวลาเดียวกัน ศาลแขวงรัฐบาลสหรัฐ ที่เขตบรูคลิน ในนครนิวยอร์ก ออกแถลงการณ์ว่า "น.ส.เมิ่งมีความรับผิดชอบอย่างมากต่อกระบวนการสอบสวน" ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐจะถอนฟ้องข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อจำเลย ภายในเดือนธ.ค.ปีหน้า หากน.ส.เมิ่ง "ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดได้อย่างเคร่งครัดตลอดระยะเวลาดังกล่าว" และเตรียมเพิกถอนคำร้องต่อรัฐบาลแคนาดา ในการขอตัวจำเลยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
ขณะที่รัฐบาลแคนาดา สหรัฐและจีนยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการต่อการได้รับอิสรภาพของน.ส.เมิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า จะมีความเชื่อมโยงกับ "ชะตากรรม" ของชายชาวแคเนเดียน 3 คนในจีนอย่างไร โดยสองคนกำลังอยู่ในเรือนจำจากข้อหาจารกรรม ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นจำเลยคดีค้ายาเพติด ซึ่งบทลงโทษเดิมคือจำคุก 15 ปี "แต่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว" เป็นการประหารชีวิต หลังแคนาดาจับกุมทายาทหัวเว่ย.

เครดิตภาพ : REUTERS