จากกรณีเหตุสลิงรถเครนขาด มีคนงานเสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณถนนพระราม 2 ซอย 72 ใกล้กับหน้าเอส แอล.เค.สตีล จำกัด แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

โดยที่เกิดเหตุอยู่ช่วงขาเข้า บนนถนนพระรามที่ 2 ทางโค้งเลี้ยวออกถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างทางด่วนยกระดับพระราม 2 พบรถเครนขนาดใหญ่ ยี่ห้อ Tanado สีเหลือง ท้ายมีเลขทะเบียน TR-5049 จอดอยู่ ตรวจสอบพบกระเช้าเหล็กลักษณะเป็นลูกกรงสี่เหลี่ยมไม่มีฝาปิด ขนาดกว้าง 1 เมตรสูง 1.5 เมตร ไว้ใช้สำหรับขนสิ่งของล้มคว่ำอยู่ ด้านในพบศพนายวิภาค พรหมประสงค์ อายุ 44 ปี สภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีน มีเลือดนองออกปาก-จมูก เจ้าหน้าที่จึงทำการ CPR แต่ไม่เป็นผล นอนเสียชีวิตด้านในกระเช้า ข้างกันพบร่างนายธีรภัทร์ ขันนอก อายุ 24 ปี โดยทั้งสองรายเป็นช่างแมคคาทรอนิกส์ ได้รับบาดเจ็บ นอนทับร่างผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล PMG เพื่อรักษาเป็นการด่วน

พระราม 2 อีกแล้ว! สายสลิงรถเครนขาด กระเช้าร่วงคนงานดับ 1 สาหัส 1

สอบสวนนายสุชาติ ตงเท่ง อาสาสมัครมูนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า พอได้รับแจ้งเหตุก็รีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน แต่ปรากฏว่ามีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน อีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา เบื้องต้นทราบว่ากระเช้าดังกล่าวไม่ได้เป็นกระเช้าสำหรับบรรทุกคนขึ้นไปด้านบน แต่เป็นกระเช้าสำหรับขนของ

ขณะที่คนขับรถเครนได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขึ้นไปขับรถเครนคันดังกล่าว โดยมีนายวิภาค พรหมประสงค์ หรือ ราม ผู้เสียชีวิต และนายธีรภัทร์ ขึ้นไปบนกระเช้าเพื่อจะไปเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นโช้คไฮดรอลิกโช้คคานเหล็กยก segment หรือรางรองรับพื้นถนนทางด่วน ซึ่งระหว่างที่คนงานทั้งสองคนอยู่บนกระเช้า ไม่ได้โทรศัพท์หรือส่งสัญญาณถึงความผิดปกติของเครนและกระเช้า จากที่โดยปกติแล้วจะสื่อสารกันผ่านโทรศัพท์ จู่ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นคล้ายกับวัตถุหล่นกระทบพื้น ตนจึงได้วิ่งออกจากรถเครนไปดู ก็พบว่าสายสลิงดึงกระเช้าขาด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน จากนั้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้กระทำการโดยประมาท แต่อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ และระบบเซฟตี้ของตัวเครน เพราะช่วงที่กระเช้าขึ้นไปจนสุดระยะเครน หนึ่งในคนงานได้สื่อสารผ่านโทรศัพท์มาว่า ให้นำกระเช้าขึ้นไปให้สูงกว่านี้ เพราะยังไม่ถึงจุดโช้คไฮดรอลิกที่จะไปเปลี่ยนน้ำมัน

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ที่ผ่านมาตัวเครนและชิ้นส่วนอื่นมีท่าทีบ่งบอกว่าถึงความชำรุดหรือไม่ ทางคนขับรถเครนบอกเพียงว่า ผมไม่สามารถตอบได้ อยากให้ทางบริษัทเป็นผู้ตรวจสอบว่าเครื่องจักรมีสภาพที่ชำรุดหรือไม่ และพิจารณาตอบคำถามนี้เอง โดยผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นคนที่ขยันทำงาน ซึ่งก็เคยทำงานร่วมกันมาระยะเวลาหนึ่ง โดยทั้งคู่ ค่อนข้างจะมีความชำนาญเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยขึ้นกระเช้าไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไฮดรอลิกในลักษณะนี้มาแล้ว ก็ไม่เคยเกิดความผิดพลาด

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยาน ผู้คุมคนงานและคนขับรถเครน เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาว่าประมาทฯ หรือไม่ และหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป.