จากกรณีมีผู้เสียหายร้องต่อสื่อมวลชน ว่าโดนเพื่อนบ้านบุกรุกยึดบ้านพักพื้นที่ย่านรามอินทรา โดยอ้างสิทธิการครอบครองปรปักษ์ ทั้งยังติดป้ายข่มขู่จะแจ้งตำรวจจับ หากเจ้าของบ้านกลับมาเอาบ้านคืน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง ภายหลัง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ รับเป็นทนายฝ่ายผู้เสียหาย ดำเนินการทางกฎหมายกับเพื่อนบ้านทันที ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ทีมทนายเดชา พร้อมกับ คุณซัน ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของบ้าน ได้เดินทางเข้าไปตัดกุญแจและสำรวจพื้นที่ภายในบ้าน หลังจากไม่สามารถเข้าไปอยู่บ้านของตัวเองได้เป็นเวลานานประมาณ 4-5 เดือน หลังจากฝ่ายเพื่อนบ้านเข้ามายึดครองล็อกกุญแจะติดป้ายขายไก่ทอด ทั้งยังติดป้ายห้ามเจ้าของบ้านตัวจริงเข้าไปอีกด้วย ในเบื้องต้นพบว่า ภายในบ้านมีการนำเอาที่นอน และโซฟา มาจัดวางเอาไว้ลักษณะเหมือนเป็นหลักฐานเพื่อการพักอาศัย ส่วนที่ต่อเติมหลังคา มีการรื้อถอนออกไปแล้ว ทั้งนี้ทีมทนาย ระบุว่า ทางฝ่ายกฎหมายดำเนินการแจ้งความกับตำรวจแล้ว ฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ รวมไปถึงการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปี

ด้าน คุณซัน กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะเข้ามาพักอาศัยในบ้าน แต่ก็ยังเป็นห่วงด้านความปลอดภัย อยากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเรื่องนี้ด้วย ตนเข้าบ้านไม่ได้มา 4-5 เดือน พอเข้ามาก็เจอทรัพย์สินของอีกฝ่ายนำมาทิ้งไว้เยอะมาก อยากฝากถามไปถึง “การประปา” ที่ให้บริษัทคู่กรณีรับเหมาว่าเขาทำกับชาวบ้านขนาดนี้ ยังสมควรจะจ้างเขาอีกหรือไม่ มีจริยธรรมหรือไม่ แล้วที่ผ่านมา ทำไมเขาถึงต่อน้ำ ต่อไฟเข้ามาได้ ทั้งที่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน ต่อข้อถามที่ว่า จะให้เช่าหรือขายบ้านหลังนี้หรือไม่ คุณซัน ระบุว่า มีโอกาสสูงมากที่จะให้เช่าหรือขาย แต่เราต้องชนะคดีก่อน และจะไม่ให้อีกฝ่ายมาเช่าหรือซื้อไปเด็ดขาด.