จากกรณีตำรวจ ศปอส.ตร. หรือ ชุดพีซีที จับกุมเว็บพนันออนไลน์ betfixroyal ที่มี “มินนี่” น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี เป็นเจ้าของ ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาพัวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์ นำไปสู่เหตุการณ์ตรวจค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ย่านถนนวิภาวดี กทม. ก่อนจับกุม 8 นายตำรวจ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ของ “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ในความผิดร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ต่อมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ตร. ที่ 593/2566 ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ตลอดจนความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์ “มินนี่” เตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีข้าราชการตำรวจระดับสูง ในฐานะผู้บงการ ข้อหาฟอกเงิน โดยมีการเชื่อมโยงว่านายตำรวจคนดังกล่าวอาจหมายถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 8 นายที่ถูกจับกุมในคดีนี้ ว่า ตนได้เห็นกระแสข่าวดังกล่าว แต่ก็ไม่กังวลใดๆ เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ที่ตนเองถูกเข้าค้นบ้าน แล้วถูกนำมาเล่าใหม่ และคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการไปหมดแล้ว ตนเองเชื่อว่าความจริงก็คือความจริงเป็นไปตามกฎหมาย ใครจะมากลั่นแกล้งกันไม่ได้ ตนเองทำคดีมาเยอะ ก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเยอะเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีการดำเนินคดี ก็ต้องสู้คดีตามกระบวนการ และตนเองก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะพิพากษาถึงที่สุด เพราะกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับตนเอง

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่ถูกดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ทั้ง 8 นาย และจนถึงขณะนี้ตนเองก็ไม่ได้ทอดทิ้งลูกน้อง อันไหนผิดคือผิด อันไหนถูกคือถูก ซึ่งตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไม่ได้รับเงินเว็บพนัน เงินทั้งหมดทุกอย่างของตนเองชี้แจงได้หมด และพร้อมพิสูจน์ความจริง เมื่อครั้งที่ตนไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีมา 2 ปี ผ่านการตรวจสอบมาอย่างละเอียด ไม่ได้ถูกดำเนินคดีหรือลงโทษอะไร หากตนมีความผิด ก็คงถูกดำเนินคดีไปนานแล้ว เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการตัดขา ขัดขวางไม่ให้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมีการรื้อฟื้นเรื่องดังกล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนกรณีที่หนึ่งในลูกน้องที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้มีการฟ้องกลับคณะพนักงานสอบสวนที่มีการลงลายมือชื่อในรายงานการจับกุมและตรวจค้นกว่า 200 คน ตั้งแต่ยศ “พล.ต.อ.” ถึงชั้นประทวน ส่วนตัวตนถือว่า “กรรมใครก็กรรมมัน” อย่าไปทำตามใจ ขณะมีอำนาจ ย้ายใครก็โยกกลับมาได้ แต่หากโดนคดีอาญาติดคุก ใครก็ตามที่ทำไม่ตรงไปตรงมา สุดท้ายก็มีวิบากกรรมหมด มันอาจจะได้ช่วงเดียว แต่ความจริงมีหนึ่งเดียว การเอากฎหมายไปแกล้งใครก็ตามจะได้รับผลกระทบไปหมด ทั้งที่คนที่ทำจริงๆ มีไม่กี่คน ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจในการทำงาน ตนเองยังรับราชการอยู่ ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง แต่ถ้าตนเองไม่สู้ ก็คงต้องลาออกไป และถ้าจะตายก็คงตายตั้งแต่อยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว คงไม่ตายน้ำตื้นด้วยการใช้ออนไลน์