จากกรณีมีคดีเพื่อนบ้านบุกยึดบ้านร้างของอากู๋เหมทัศน์ ที่มีรั้วรอบขอบชิด ในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 เจ้าของบ้านซื้อทิ้งไว้ ก่อนจะมอบให้หลานที่กำลังจะแต่งงาน โดยเพื่อนบ้านอ้างว่า ใช้สิทธิครอบครองปรปักษ์ เข้ามาต่อเติมทำออฟฟิศ เป็นข่าวดังเมื่อปลายปีก่อน แม้คดีนี้ศาลยังไม่ตัดสิน แต่กลับพบว่าเพื่อนบ้านกลับไปบุกยึดบ้านรอบ 2

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ. เพื่อนบ้านที่เป็นหญิงสาว ได้ใช้ผ้าขนหนูผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในห้องน้ำ โดยทาง “ทนายวัฒนา” ทนายฝั่งคนครอบครองปรปักษ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุการตัดสินใจจบชีวิตของฝั่งเพื่อนบ้าน โดยอ้างว่ามาจากการที่ทางเจ้าของบ้าน และทนายความใช้สื่อเป็นเครื่องมือ จนรู้สึกกดดัน เครียดหนักจิตตกจนจบชีวิต
-ทนายเพื่อนบ้านโบ้ยเจ้าของใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ทำคนครอบครองปรปักษ์เครียดหนัก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเผยแพร่ออกไป ทางด้านโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยมีการติดแฮชแท็ก #ครอบครองปรปักษ์ เพื่อพูดถึงเรื่องดังกล่าวอย่างดุเดือด ส่งผลให้แฮชแท็กดังกล่าวกลายเป็นแฮชแท็กอันดับ 1 แฮชแท็กยอดนิยมของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ (วันที่ 26 ก.พ. เวลา 15.30 น.)

สำหรับความคิดเห็นชาวเน็ต ส่วนใหญ่ต่างพูดถึงการให้สัมภาษณ์ของทนายฝั่งเพื่อนบ้าน อาทิ..
-อ้าว ผู้ต้องหากรณี #ครอบครองปรปักษ์ เครียดตายในบ้านเฉย แล้วทนายเบลมฝ่ายเจ้าของบ้านว่าใช่สื่อกดต้นอย่างไม่มีความรับผิดชอบจนทำให้คู่กรณีเครียด เอ๊า ใครเป็นคนเริ่มเรื่องนี้อะ
-อ้าว เห้ย!! ทำไมไปโทษอากู๋ว่ายืมมือสื่อเพื่อใช้ในการกดดัน มันไม่ใช่นะ ทุกคนเขาก็ทำตามหน้าที่ แทนที่จะบอกให้ลูกความยอมถอยเพราะมันไม่ใช่บ้านตัวเอง กลับไปบอกให้เขาสู้ ไปบอกว่ามีทางชนะซะงั้น #ครอบครองปรปักษ์
-เราว่าทนายความพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ต้นเหตุมันมาจากการที่พวกคุณไปบุกรุก #ครอบครองปรปักษ์ ในพื้นที่เค้าก่อนถูกผิดก็ไปสู้ในศาล ซึ่งอีกฝั่งมีหลักฐานเป็นเจ้าของที่ถูกต้อง สื่อมวลชนเค้าก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ใดๆ คือขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ
-#ครอบครองปรปักษ์ ทนายให้ส้มภาษณ์น่าเกลียดนะ โทษเจ้าของบ้านเฉย ไกล่เกลี่ยไปแล้วรอบนึง ขนของออกไปแล้ว บุกรุกมาตัดโซ่ ตัดกุญแจเค้าอีก ขึ้นป้ายขายไก่โดนเจ้าของดำเนินคดี แล้วก็เครียดจนตัดสินใจลาโลกเอง มาโทษเจ้าของบ้าน
..