เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 29 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าตรวจสอบของกลางยาเสพติดและสอบปากคำผู้ต้องหา ณ สถานีตำรวจภูธรบางปะหัน ต.เสาธง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อเดินทางถึงได้พบผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุในกระสอบประมาณ 50 กระสอบ กระสอบละประมาณ 2 แสนเม็ด รวมยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองสงครามพิเศษลพบุรี ได้จับกุมขบวนการขนยาเสพติด ณ บริเวณปั๊มน้ำมัน PT โชคดีออยล์ ต.หันสัง อ.บางปะหัน โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามรถต้องสงสัย จำนวน 2 คัน ซึ่งขับหลบหนีด่านตรวจมาจากจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย รถบรรทุก ฮีโร่ สีขาว ทะเบียน 70-1654 น่าน และรถกระบะ Toyota Vigo สีดำ ทะเบียน ฒน 3801 กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อรถต้องสงสัย 2 คัน ได้ขับมาแวะที่ปั๊ม PT โชคดีออยล์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและขอตรวจค้น โดยผู้ขับขี่รถบรรทุกฮีโน่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายจรัส (สงวนนามสกุล) อายุประมาณ 47 ปี รับสารภาพว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ โดยที่ผู้ว่าจ้างให้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าว มาจอดไว้ที่ปั๊ม PT โชคดีออยล์ จากนั้นจะมีผู้มารับช่วงต่อ โดยที่ตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนคนขับรถกระบะ Toyota สีดำ ทราบชื่อภายหลัง นายธีรนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ  45 ปี จากการตรวจค้นรถคันดังกล่าว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่คาดว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถสำรวจเส้นทาง ซึ่งจากการตรวจสอบยาเสพติดเบื้องต้นท้ายรถบรรทุก ชุดจับกุมได้พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุในกระสอบประมาณ 50 กระสอบ กระสอบละประมาณ 2 แสนเม็ด รวมยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด โดยยาเสพติดดังกล่าว ปะปนมากับกระสอบพืชผลทางการเกษตร จากนั้น จึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางมาที่สถานีตำรวจภูรบางปะหัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

“วันนี้ผมเดินทางมาด้วยความตั้งใจ ที่จะมาชื่นชมทีมงานทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่ถือเป็นทีมงานที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการไล่ตามจับกุมการลักลอบขนยาบ้าครั้งนี้ถึง 10 ล้านเม็ด ได้ประสบความสำเร็จ โดยมีทหารและตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งเมื่อได้เบาะแส ก็ได้ไล่ตามจากจุดเริ่มต้นที่จังหวัดพะเยาลงมา ซึ่งการไล่ติดตาม เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้ผู้ต้องหาไหวตัว กระทั่งสามารถมาจับกุมได้ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้โทรศัพท์รายงาน และท่านอธิบดีกรมการปกครองจึงได้พารถไปรับตนเดินทางมา” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้เห็นการทำงานของทีมงานที่บูรณาการร่วมกันในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งพวกเราต้องชื่นชมทุกท่านเหล่านี้ ที่ได้เสี่ยงชีวิตในการจับกุมเครือข่าย โดยเฉพาะการจับกุมยาบ้าจำนวนมากกว่า 10 ล้านเม็ดในครั้งนี้ ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการสกัดไม่ให้ยาเสพติดหลุดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน และถูกลำเลียงไปพื้นที่ต่าง ๆ ที่อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ไปทำให้เกิดผู้เสพหน้าใหม่เพิ่มขึ้น และตนขอยืนยันว่า รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยจะไม่ปล่อยให้มียาเสพติดเพิ่มขึ้นในประเทศไทย เราจะเดินหน้าบูรณาการทั้งตำรวจทหาร และฝ่ายปกครอง ในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในทุกวิถีทาง เพื่อทำให้สังคมไทยเป็นสังคมปลอดยาเสพติด ลูกหลานใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยหากพี่น้องประชาชนพบเบาะแส สามารถแจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง