เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พ.ต.อ.ทศพล อําไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เปิดเผยภายหลังเชิญตัวชายวัย 62 ปี มาพบกับตำรวจ และพาไปยังร้านของเจ๊ไฝ เพื่อทำการขอโทษ พร้อมทั้งจ่ายเงินเยียวยาค่าเสียหายกับเจ๊ไฝแล้ว โดยจากการสอบถามเบื้องต้น ชายดังกล่าวยอมรับว่า ได้กล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจระดับสารวัตรจริง แต่เป็นการกล่าวอ้างเพื่อที่จะให้ตนสามารถเข้าไปนั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ เนื่องจากร้านเจ๊ไฝเป็นที่ทราบกันว่า เป็นร้านที่ต่อคิวนาน ด้วยความที่ขี้เกียจรอคิว จึงคิดว่าหากอ้างว่าตนเองเป็นตำรวจ อาจจะสามารถเข้าไปนั่งในร้านได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นเพราะมีความคิดแบบสมัยก่อน ที่เชื่อในเรื่องการอ้างเป็นข้าราชการ

ส่วนทางฝั่งร้าน ก็เข้าใจว่าเป็นตำรวจมาลงคิวเอาไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะมีการตรวจสอบในระบบจองแล้วว่าไม่มีตำรวจระดับสารวัตรมาจองคิว แต่ด้วยความเข้าใจผิด จึงให้ชายคนนี้ เข้าไปรับประทานอาหารในร้านได้

อย่างไรก็ตาม ทางชายคนดังกล่าวไม่ได้แอบอ้างตนเองว่าเป็นตำรวจ เพื่อที่จะชักดาบหนีการจ่ายเงิน แต่ทราบว่ามีอาการหลงลืมและรีบที่จะไปรับรถที่ร้านทำกระจก ซึ่งจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดแล้วพบว่า เมื่อชายคนดังกล่าวนั้นเดินออกจากร้าน ก็รีบก้าวยาวเดินมุ่งหน้าไปทางถนนบริพัตร และตรงไปยังร้านทำกระจกรถจริง จึงเชื่อได้ว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด

เลิกแล้วต่อกัน! ‘เจ๊ไฝ’ ไม่ติดใจดำเนินคดี หนุ่มอ้างตัวเป็น ‘สารวัตร’ กินแล้วชักดาบ

ซึ่งหลังเกิดเหตุ ลุงคนดังกล่าวก็เพิ่งรู้ตัวและตั้งใจว่าจะนำเงินมาจ่ายให้แก่เจ๊ฝ่ายในวันนี้ แต่ดันปรากฏเป็นข่าวเสียก่อน ซึ่งทางชายคนดังกล่าว ได้ไปพูดคุยขอโทษกับเจ๊ไฝ และชำระเงินจำนวน 2,310 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งเป็นค่ากะเพราเนื้อ 830 บาท ค่าไข่เจียวปู 1,400 บาท และค่าห่อกลับบ้านอีก 80 บาท

ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีนั้น ทางเจ๊ไฝให้อภัยแก่ชายคนดังกล่าว และไม่ติดใจเอาความ ดังนั้นทางตำรวจจึงไม่ได้ดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เพียงแต่ได้มีการพูดคุยกันเล็กน้อย และเชิญชายคนดังกล่าวกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม การกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจ ยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิดในข้อหาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงาน เพราะยังไม่ได้มีการแอบอ้างเพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งตามอำนาจเจ้าพนักงานด้วย โดยในส่วนนี้ เพียงแค่บอกว่าเป็นตำรวจ เพื่อเข้าไปรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ไม่ใช่เป็นการแอบอ้างเพื่อทำหน้าที่อำนาจในตำแหน่งราชการ จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดแต่อย่างใด ส่วนที่ลูกสาวของเจ๊ไฝอ้างว่า มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันตั้งแต่เมื่อวานนี้นั้น จากการตรวจสอบแล้ว ยังไม่พบข้อมูลนี้

อย่างไรก็ตาม ชายวัย 62 ปี ให้ข้อมูลกับทางตำรวจเพิ่มเติมว่า เคยทำงานเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงเครื่องบินสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกกับตำรวจว่า เป็นในฐานะข้าราชการ พนักงานเอกชน หรือรัฐวิสาหกิจแต่อย่างใด.