เมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล  กล่าวถึงปัญหาที่ยืดเยื้อเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนพระราม 2 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีให้คำมั่นว่าจะคลี่คลายให้แล้วเสร็จก่อนช่วงสงกรานต์ปีนี้ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ หยิบยกมาพูด พร้อมย้ำถึงปัญหาความล่าช้าก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี อีกทั้งก่อมลพิษในพื้นที่ และเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ต่อประชาชนที่เสียชีวิต 132 คน ตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง และในฐานะ สส.พื้นที่ ฝากถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องแพลนท์ปูนก่อสร้าง จำนวน 18 แพลนท์ ที่อยู่ในแหล่งชุมชน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของประชาชนจนมีเรื่องร้องเรียน ว่ามีเด็กเสียชีวิตจากรถขนส่งหินทับเด็ก ซึ่งเห็นว่าคนในพื้นที่มองว่าเป็นเพียง 1 ครั้ง ที่มีการหยิบยกปัญหาการก่อสร้างถนนพระราม 2 มาพูดคุย  แล้วผ่านไปหรือไม่ เนื่องจากประชาชนต้องเผชิญเหตุการณ์มานับครั้งไม่ถ้วน จึงขอสื่อสารถึงนายกรัฐมนตรี  ขอบคุณที่หยิบเรื่องนี้มาพูดคุย แต่หากทำไม่แล้วเสร็จตามที่ลั่นวาจาไว้ อาจจะเป็นเครื่องยืนยันว่าไร้ความสามารถ จึงแนะนำให้ทุกคนติดตามอย่างยาวๆ

“แต่เรื่องนี้หากท่านบอกว่าภายในสงกรานต์ปี 2567 นี้จะแล้วเสร็จ ผมเป็นกำลังใจให้ และขอให้ท่านได้ลงไปดูในรายละเอียดปลีกย่อย ส่วนของแพลนท์ปูน และองค์ประกอบในการก่อสร้างทุกชุมชนโดยรอบถนนพระราม 2 ที่ประสบปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ผมให้ติดตามอย่างใกล้ชิดและลงรายละเอียดให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เป็นเพียงการหยิบยกเรื่องในกระแสมาปิดบังเรื่องอื่นในสังคม ที่ท่านกำลังปกปิดไว้” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปติดตามด้วยตัวเองก็พร้อมที่จะร่วมคณะด้วยหากประสานมา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลพิจารณาอนุมัติโครงการทั้งใต้ดิน บนดิน ลอยฟ้า ซ้อนกัน 3-4 โครงการ ซึ่งรัฐมนตรียุคใดเข้ามาต่างก็เข้ามาอนุมัติโครงการเพิ่มเติมมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่อาจเพราะเป็นชิ้นปลามัน เมกะโปรเจกต์ที่สามารถอนุมัติง่ายเรียกใช้คล่อง ผู้รับเหมารายเดิม แต่ปัญหานับไม่ถ้วน

เมื่อถามว่า ท่าทีของนายกรัฐมนตรีที่แสดงออกนั้นแสดงถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ท่าทีของนายกรัฐมนตรีที่เข้ามาแก้ไขปัญหาดูเหมือนจะตื่นเต้นตกใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับการตื่นเต้นตกใจกับปัญหาเผาไร่อ้อย ซึ่งเคยเกิดขึ้นมานานแล้ว

นายณัฐชา ได้เสนอแนะถึงวิธีการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ว่า ในวันนี้หากทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องถนนพระราม 2 จะต้องหยิบทุกสัญญามาวางไว้บนโต๊ะ และพิจารณาว่าสัญญาไหนมีปัญหาทางเทคนิค หรือมีปัญหาบริบทในพื้นที่ แต่มีการอนุมัติโครงการไปแล้ว แต่จะต้องมีการปรับแก้สัญญาก็ต้องหยิบยกมาพิจารณา ส่วนสัญญาไหนไม่มีปัญหาสามารถเร่งรัดดำเนินการได้เลย หรือมีปัญหาที่จะต้องหาผู้รับเหมารายใหม่ รัฐบาลจะต้องมีความกล้าใช้กลไกของกฎหมายในการยกเลิกสัญญา และหาผู้รับเหมารายใหม่ และชี้ว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดองทุกโครงการไว้ให้ผู้รับเหมาเพียงรายเดียว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยทำหนังสือไปยัง รมว.คมนาคม ในการปรึกษาติดตามก่อสร้างถนนพระราม 2 แต่หนังสือเพิ่งตอบกลับเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ว่าไม่สะดวกให้เข้าพบพูดคุย.