เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.ท.ตฤณธวัช ปัญญาธร รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.ต.เมธี ธีระสวัสดิ์ สว.ตม.จว.กาญจนบุรี บูรณาการร่วมกับ ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิชก.ภ.จว.กาญจนบุรี ทหาร ฉก.ลาดหญ้า จับกุมชาวเมียนมา จำนวน 94 ราย( ชาย 58 ราย หญิง 31 พร้อมผู้ติดตาม 5รายเป็น ชาย 4 ราย หญิง 1 ราย) ตั้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาติ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์บรรทุก 6 ล้อยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-9937 ราชบุรี จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ-9301 ลำพูน จำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้ที่ริมถนนสาธารณะชายแม่น้ำแควน้อย หมู่ 7 บ้านนามกุย ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จว.กาญจนบุรี จนท.ชุดจับกุมจึง ได้นำตัวทั้งหมดส่ง สภ. ทองผาภูมิ
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกันชุดจับกลุ่มดังกล่าวพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิไล ผกก.สภ.สังขละบุรี นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์ ปลัดฝ่ายความมั่นคงสังขละบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าว ว่าพบกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายบุคคลต่างด้าวอยู่บริเวณป่ายางภายในซอยก่อนขึ้นเนินยาว ถนนหลวงสาย 323 อำเภอสังขละบุรีไปอำเภอทองผาภูมิ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จึงได้จัดกำลังไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ น.ส.คี ยู นวย ไม่ทราบนามสกุล และน.ส.ลา วี โท่ ไม่ทราบนามสกุล พร้อมพวกจำนวน9 มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวหรือเอกสารที่แสดงการอนุญาตให้เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยน.ส.คี ยูนวย ไม่สามารถแสดงเอกสารการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ ส่วนน.ส.ลา วี โท่ ไม่ทราบนามสกุล ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ โดยแจ้งว่าพวกตนไม่มีบัตรประจำตัว เอกสารการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย เจ้าหน้าที่จึงจับกุมทั้งหมด 11 คน แจ้งข้อกล่าวหาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาตดำเนินคดีส่ง สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ช่วงเย็นด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้จับกุมชาวเมียนมา ได้อีก5 คนชาย4 คน หญิง1 คน มีท่าทางพิรุธเจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจสอบ พบหนังสือเดินทางของประเทศเมียนมา ตัวเล่มสีเขียว เจ้าที่จึงนำหนังสือเดินทางให้ดังดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่าเป็นหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นเข้าออกในราชอาณาจักรผิดช่องทาง ส่งดำเนินคดี สภ.สังขละบุรี ตามกฎหมายต่อไป
