เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการร่วมงานกับนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ ที่ออกมายืนยันว่า รัฐมนตรีจะเข้ามาตอบกระทู้ในสภา แน่นอน ว่า เบื้องต้นก็มีแนวโน้มที่ดี แต่ความจริง นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลคนก่อน ก็ไม่ได้มีอุปสรรคในการทำงานมากขนาดนั้น ที่ผ่านมาก็พูดคุยกันด้วยดี เรื่องที่เห็นไม่ตรงกันมีบ้าง สำหรับประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ ก็อาจจะมีบ้างเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า นายวิสุทธิ์ มีท่าทีกระตือรือร้นต่อเรื่องกระทู้ที่ทางวิปฝ่ายค้านกระทุ้งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยที่ต้องตามหาตัวรัฐมนตรีมาตอบกระทู้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องรอดู สัปดาห์นี้มีกระทู้ถามทั่วไปเยอะมาก อาจจะมีรัฐมนตรีบางท่านที่ขอเลื่อน ซึ่งไม่ว่ากัน แต่ประเด็นคือต้องอธิบายให้ชัดมากกว่าว่าไปไหน ติดภารกิจที่สำคัญหลีกเลี่ยงไม่ได้คืออะไร

ส่วนสัปดาห์นี้จะมีการตามหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อีกหรือไม่นั้น นายปกรณ์วุฒิ ตอบพร้อมหัวเราะว่า “ผมก็เหนื่อยแล้ว ก็คงเท่าที่จำเป็น”

เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการ มีต่อสายหากันบ้าง นับแต่สัปดาห์ที่แล้วที่ตนให้สัมภาษณ์ไป แล้วมีการโต้ตอบจากหลายฝ่าย ต้องชี้แจงว่าเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้มีแบบเดียว แต่มีทั้งแบบลงมติและไม่ลงมติ สัปดาห์ที่แล้วตนก็ยอมรับว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ค่อนข้างหนักใจ เพราะไม่อยากทำเนื้อหาสาระเหมือนการเมืองยุคก่อนๆ ที่ต้องเปิดทุกปี 

“ผมเห็นนักการเมืองสมัยเก่าหลายๆ ท่าน ออกมาวิจารณ์ผมว่าทำตัวเกี้ยเซียะกับรัฐบาล ไม่ยอมอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือถ้าเปิดมาแล้วพูดเรื่องส่วนตัวของรัฐมนตรี ผมไม่ทำ มันต้องมีเนื้อหาสาระที่จับต้องได้ ที่ประชาชนมองเห็นว่าบุคคลนี้ รัฐมนตรีท่านนี้ ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกต่อไป ไม่ใช่แค่เปิดอภิปรายตามสิทธิ ผมว่าถ้าเปิดมาตามสิทธิแล้วอภิปรายอะไรที่ไร้สาระ ผมว่านั่นแหละเกี้ยเซียะของจริง เป็นการทำให้รัฐบาลดูดีขึ้นมาทันที ถ้าเราพูดอะไรที่ไม่มีเนื้อหาสาระ” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ  กล่าวว่า ขณะที่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมตินั้น จะกว้างกว่า สามารถให้ข้อเสนอแนะ ทวงถามหลายๆ เรื่อง ซึ่งพักร่วมฝ่ายค้านก็ได้ทวงถามหลายๆ เรื่องต่อรัฐบาลมาตลอดแทบจะรายสัปดาห์ คิดว่าผู้สื่อข่าวก็สามารถลงข่าวได้ทุกสัปดาห์ว่าฝ่ายค้านทวงถามอะไรรัฐบาลบ้าง อภิปราย 4 วันก็คงไม่จบ แต่ถ้าจะอภิปรายจริงก็ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งก็ยังเปิดกว้าง พร้อมย้ำว่า สามารถเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติได้ และมีโอกาสมากกว่าการเปิดอภิปรายแบบลงมติแน่นอน

สำหรับข้อมูลใหม่ๆ ที่ไม่เคยเปิดมาก่อนนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มีเยอะ มีการไล่เรียงและเก็บข้อมูลแต่ละหัวข้อกันอยู่ตลอด เพียงแต่อาจยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่สามารถหยิบมาได้ มองว่าต้องมีสัก 40-50 เรื่องที่เก็บเอาไว้ พร้อมขอให้ติดตาม ภายในสัปดาห์นี้ควรต้องเห็นความชัดเจนแล้ว เพราะการยื่นญัตติก็จำเป็นต้องใช้เวลา.