นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ปี 67 กรมกำหนดแผนตรวจสอบธุรกิจที่อาจเข้าข่ายมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) จำนวน 26,019 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี รวมถึงกรุงเทพฯ ในย่านสำเพ็ง คลองถม เยาวราช ฯลฯ ซึ่งจะเน้นตรวจสอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และมีคนคนต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 50% เป็นหลัก พร้อมกับได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมการท่องเที่ยว ตรวจสอบเชิงลึก เส้นทางการเงิน ในอีก 419 ราย ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งขณะนี้ได้ขอข้อมูลเชิงลึกแล้ว 313 ราย

“ในเร็วๆ นี้ กรมจะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบธุรกิจที่อาจเข้าข่ายนอมินี มีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกิน 50% ประมาณ 59 ราย โดยจะมีทั้งธุรกิจท่องเที่ยว ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รถเช่า โรงแรม รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ  รวมถึงจะเข้าไปตรวจบริษัท อีเลเฟนท์ แซงชัวรี่ พาร์ค ภูเก็ต จำกัด ของนายเดวิด จากสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างด้วย”

ที่ผ่านมา กรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบนอมินีเป็นประจำอยู่แล้ว ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพราะบางธุรกิจเป็นธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว ที่ทำไม่ได้เลย และบางธุรกิจ หากคนต่างด้าวจะทำธุรกิจในไทยต้องขออนุญาต แต่การมีนอมินีก็เพื่อเลี่ยงกฎหมาย โดยในปี 67 มีแผนตรวจสอบอย่างต่อเนื่องในจังหวัดท่องเที่ยว และกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอ ได้ประสานมาให้ลงไปตรวจที่ จ.ภูเก็ต และพอดีมีข่าวของคุณเดวิด ก็จะเข้าไปตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียน บริษัท อีเลเฟนท์ฯ ของนายเดวิด พบว่าทำธุรกิจเลี้ยงช้าง และเปิดให้ชม จดทะเบียนนิติบุคคลปี 60 มีกรรมการ 3 คน เป็นคนไทย 2 คน ถือหุ้นสัดส่วน 51% อีก 1 คนเป็นต่างชาติ ถือหุ้นไม่เกิน 49% ซึ่งไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ต่างด้าว  

ส่วนผลการตรวจสอบนอมินีในปี 66 กรมได้ตรวจสอบนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงรวม 15,000 ราย และเมื่อตรวจสอบแล้ว เห็นว่า ต้องตรวจสอบเชิงลึกประมาณ 400 ราย จึงได้ตรวจสอบต่อ จนพบพฤติกรรมน่าสงสัย และได้ส่งดำเนินคดีรวม 8 ราย โดยกรณีการเป็นนอมินี ถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน และกรรมการบริษัทก็จะมีความผิดด้วย