เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ห้องประชุมเจ้าฟ้า ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายศรัทธา ทองคำ รอง ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลต่อ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผอ.สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง นายเสรี ภัณฑ์โรจน์ เลขานุการกรมการปกครอง นายอิสรา เจริญชาศรี ผอ.กองการสื่อสาร กรมการปกครอง ในโอกาสเดินทางมาติดตามกรณีการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบ นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง

โดย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รายงานข้อมูลผลการดำเนินคดีซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และคาดว่าจะส่งฟ้องได้ภายในสัปดาห์นี้ ขณะ พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต รายงานกรณีการเพิกถอนวีซ่า นายเดวิด ซึ่งจะมีคณะทำงานระดับจังหวัดร่วมพิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุมและยึดกฎหมายเป็นหลัก

นายอติชาติ พิเชียรโสภณ ที่ดินจังหวัดภูเก็ต รายงานกรณีที่ดินซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบแล้วพร้อมแจ้งข้อมูลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วน นายสุทัศน์ นิยมไทย ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต รายงานข้อมูลช้างและปางช้างที่ชาวสวิส ทำธุรกิจ การตรวจสอบช้างทุกเชือกมีหลักฐานถูกต้องและมีไมโครชิปทุกเชือก ส่วนของนายวิสุทธิ์ โรมินทร์ ปลัดอำเภอถลาง รายงานข้อมูลผลการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน พร้อมกันนี้ นายศุภชัย เพิ่มพูน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ป่าคลอก ได้เสนอข้อมูลความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่กรณีที่มีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะด้วย

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมรับฟังข้อมูลเสร็จสิ้น ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผอ.สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ชาวสวิส ทำร้ายร่างกายคุณหมอชาวไทย นั้น อธิบดีกรมการปกครองได้มอบหมายให้ สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง และคณะลงพื้นที่ตรวจสอบพบประเด็นหลายประเด็น ซึ่งมีทั้งในส่วนที่ดำเนินการแก้ปัญหาแล้วและบางส่วนได้รับข้อร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนกลางจะร่วมกับท้องที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป เช่น ปัญหาการรุกล้ำบริเวณชายหาดที่สาธารณะ และการรุกล้ำพื้นที่ถนน ที่ชาวบ้านเคยใช้เป็นถนนสาธารณะ รวมถึงประเด็นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่มีการจดทะเบียน จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการถือหุ้นจริงของชาวต่างชาติและคนไทย ในสัดส่วนที่แท้จริงหรือไม่หรือมีคนไทยเป็นนอมินีหรือไม่

ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้ชาวต่างชาติ ใช้ประเทศไทยเป็นพื้นที่แหล่งฟอกเงิน โดยรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้เน้นย้ำว่าจะต้องไม่มีการฟอกเงิน และประเทศไทยจะต้องไม่มีมาเฟียชาวต่างชาติ ที่จะเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งทำกิน ซึ่งจะต้องดำเนินการสอดส่องดูแล โดยขอให้ประชาชนและสื่อมวลชน รวมถึงท้องที่โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสอดส่องดูแล แจ้งเบาะแส มายังพื้นที่และส่วนกลาง เพื่อช่วยกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และอีกประเด็นที่มีความสำคัญที่ส่วนกลาง มุ่งขับเคลื่อนคือนโยบายการปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามการค้ามนุษย์ และการเร่งจัดระเบียบสังคม

ในส่วนของการดำเนินการในภาพรวม กรณีพื้นที่สาธารณะบริเวณแหลมยามู จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เดิมมีเส้นทางสาธารณะให้ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลงพื้นที่หาดสาธารณะได้ แต่ปัจจุบันพบว่าทางสาธารณะถูกออกโฉนด และปิดกั้นเส้นทาง ผู้ที่จะผ่านจะต้องมีบัตรผ่านทางหรือแลกบัตร ทำให้ชาวบ้านสับสน ว่าแต่เดิมผ่านทางลงชายหาดได้ ซึ่งทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

เรื่องนี้ ทางท้องที่ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ข้อมูลว่า เดิมในเอกสารสิทธิ ระบุรายละเอียดว่า ห่างจากชายหาด 40 เมตร แต่ปัจจุบันจากการวัดด้วยระดับสายตา คาดว่าไม่ถึง ในประเด็นดังกล่าวเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่พบการกระทำผิด แต่หน่วยงานรับผิดชอบจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งส่วนกลางและท้องที่จะไม่ปล่อยมือในเรื่องนี้ และจะต้องคลายข้อสงสัยของพี่น้องประชาชนให้ได้ สิ่งใดไม่ถูกจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นายศรัทธา กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่อื่นๆ จังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้ตรวจสอบร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะเช่นเดียวกับแหลมยามู ให้ส่งรายงานข้อเท็จจริงมายังจังหวัด สำหรับในกรณีการเพิกถอนวีซ่าของชาวสวิส ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ไปแล้ว

นายศรัทธา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อเข้าสู่การประชุมในการพิจารณาเพิกถอนวีซ่าอีกครั้ง ในวันที่ 7 มี.ค.นี้ สำหรับในส่วนของการตรวจสอบข้อมูลของกรมการปกครอง ที่จะต้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบ มีหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สาธารณะ การจัดตั้งปางช้างและการดูแลช้าง รวมถึงการจดทะเบียนก่อตั้งมูลนิธิฯ ซึ่งทุกประเด็นอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูล ทั้งนี้หากข้อมูลมีความพร้อมในทุกด้านครบถ้วนครอบคลุม ทางคณะทำงาน และจังหวัดภูเก็ตจะได้สรุปข้อมูลส่งให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต พิจารณาต่อไป