ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมอำเภอดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ประธาน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร สส.ราชบุรี เขต 2 ประชุมคณะกรรมาธิการฯ พร้อมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับปัญหาการกำหนดราคาปุ๋ย เพื่อรับฟังสภาพปัญหาและแลกเปลี่ยนความรู้กรณีปัญหาราคาปุ๋ยแพง ที่ส่งผลให้การบริหารจัดการมีต้นทุนที่สูงขึ้น อันเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้บริโภค โดยมีนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว น.ส.วริษฐา สงวนเสริมศรี รอง ผวจ.ราชบุรี นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี นายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 5 นายสุชัช สายกสิกร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.ดอนไผ่ เกษตรกรชาวดำเนินสะดวก เข้าร่วมรับฟังปัญหา วิกฤติอาหารในระดับโลกที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้น จะทำให้เป็นโอกาสของเกษตรกรที่ปลูกพืช แต่ต้นทุนปุ๋ยเคมี ทำให้เกษตรกรของประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนสูงขึ้น แต่ราคาในตลาดกลับไม่ได้ปรับขึ้นตามราคาของสินค้าอื่นๆ

นายสุชัช กล่าวถึงปัญหา เนื่องจากรายการลดราคาปุ๋ยช่วยเหลือเกษตรกรของกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีสูตรปุ๋ยที่ใช้กับไม้ผลพืชสวนและไม้ผลพืชไร่ เช่น ส้ม มะนาว องุ่น ฝรั่ง ชมพู่ มะพร้าว ทุเรียน เงาะ ลำไย ทั้งหมดนี้เป็นพืชที่ต้องการใช้ปุ๋ยปริมาณมากกว่าพืชไร่ เพื่อให้ได้ผลผลิตออกสู่ตลาดตามความต้องการของผู้บริ โภค และให้ทันกับช่วงราคาของผลผลิตที่เกษตรกรต้องการ เพื่อให้คุ้มกับตันทุนที่ลงทุนในแต่ละครั้งของช่วงเก็บเกี่ยวจะมีการใช้ปุ๋ยเกือบตลอดทั้งปีของการผลิตไม้ผล จึงทำให้ใช้ปุ๋ยมากกว่าพืชไร่ เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม และยางพารา ซึ่งพืชทั้ง 5 ชนิดนี้ใช้ปุ๋ยในปริมาณที่น้อยกว่า จึงมีต้นทุนที่ต่ำกว่า จึงขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานภาครัฐ ให้ช่วยลคราคาปุ๋ยทั้งสองกลุ่มนี้ให้เหมือนกัน

นายณัฏฐกิตติ์ ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาปุ๋ยแพง ด้วยนำนโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ประชาชนจะได้ใช้ปุ๋ยในราคาถูก โดยรัฐบาลจะเข้าไปอุดหนุน 50 เปอร์เซ็นต์ ต้นทุนลดลง จะสามารถแก้ปัญหาเกษตรกรที่ปุ๋ยแพง ยกระดับคุณภาพชีวิต สามารถลดต้นทุนการผลิตจะทำให้มีผลผลิตเพิ่มมากขึ้น สร้างงานสร้างรายได้ให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปุ๋ยคนละครึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรจะมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง จะมีรายได้ที่สูงขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน