เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านเหมืองตะโก ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กว่า 50 คน แห่นำเครื่องมือหาปลานานาชนิด เพื่อไปจับปลาภายในลำน้ำมูล ที่ไหลผ่านหมู่บ้าน หลังจากที่ตอนนี้ สภาพภายในลำน้ำมูลแห้งขอดและขาดตอนเป็นช่วงๆ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่าน้ำขาดวัง ทำให้จุดที่ยังคงมีน้ำขัง กลายเป็นจุดที่จะมีปลารวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ชาวบ้านก็จะพากันนำแห และยอ ไปจับปลาตลอดทั้งลำน้ำกันอย่างคึกคัก เพื่อนำกลับไปประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัวและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม เนื่องจากปลาจากลำน้ำมูลนั้น เป็นปลาแม่น้ำธรรมชาติ ทำให้มีราคาสูงกว่าปลาตามท้องตลาดทั่วไป

นายสนอง ต่ายครบุรี ผู้ใหญ่บ้านเหมืองตะโก บอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง ทำให้ตลอดลำน้ำมูลที่ไหลผ่านหมู่บ้านแห้งขอด และขาดตอนเป็นช่วงๆ ทำให้ปลาในลำน้ำมารวมตัวกันตามธรรมชาติ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ในช่วงนี้ว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา จึงรวมตัวกันมาหาจับปลาตามลำน้ำที่ยังพอมีน้ำขังอยู่ ซึ่งชาวบ้านก็จะใช้วิธีนำตาข่ายมากั้นลำน้ำเป็นช่วงๆ จากนั้นก็ใช้แห ยอ รุมจับปลาพร้อมๆ กัน ซึ่งปลาที่ได้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปลาแม่น้ำธรรมชาติ อย่างปลาตะเพียน ปลากด ปลาค้าว ปลาเนื้ออ่อน ปลาฉลาด เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะมีปลาสวยงามอย่างปลาแขยงหิน ซึ่งมีลักษณะคล้ายปลากด แต่ตัวเล็กกว่ามาก และจะมีลายสีดำคาดเหลืองตลอดลำตัว ทำให้มีความน่ารักสวยงาม ทำให้มีหลายคนนำไปเลี้ยงประดับตู้ปลาเพื่อความสวยงามด้วย

โดยชาวบ้านจะเลือกทำเลลงช่วยกันหาปลากันตลอดทั้งวัน แต่ละวันแต่ละคนจะได้ปลาคนละนับสิบกิโลกรัมต่อวัน บางคนก็จะได้หลายสิบกิโลกรัม แล้วแต่ความชำนาญของแต่ละคน หากได้มากก็จะนำไปขายให้กับชาวบ้านตามชุมชน ราคาก็จะสูงต่ำตามแต่ชนิดของปลาที่มีความนิยมรับประทานแตกต่างกันไป อย่างเช่นปลาตะเพียน ก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ขณะที่ปลากด ปลาค้าว ซึ่งเป็นปลาเนื้อดี ก็จะมีราคาสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท เป็นอย่างต่ำ ส่วนเมนูก็สามารถทำได้หลากหลาย แต่ในช่วงนี้ที่เป็นที่นิยมและต้องทำกินกันทุกบ้านก็คือ เมนูต้มปลา โดยเฉพาะปลาเนื้อดีอย่างปลากดและปลาค้าว และตอนนี้เป็นช่วงที่มะขามกำลังแตกยอดอ่อน ดังนั้นเมนูต้มปลาใส่ยอดมะขาม จึงเป็นเมนูที่ทุกบ้านจะพลาดไม่ได้ในช่วงนี้