สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย ( แอลดีพี ) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลชุดปัจจุบนของญี่ปุ่น จัดการหยั่งเสียงเป็นการภายใน เมื่อวันพุธ เพื่อเฟ้นหาผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะ ซึ่งขอสละสิทธิไม่ร่วมการชิงชัยครั้งนี้ เท่ากับว่าหัวหน้าพรรคคนใหมจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ด้วยโดยปริยาย เนื่องจากพรรคแอลดีพีครองเสียงข้างมากอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาไดเอท ซึ่งจะประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันจันทร์ที่ 4 ต.ค.นี้
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้เสนอตัวร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 4 คน คือ นายทาโร โคโนะ นายฟุมิโอะ คิชิดะ นางเซโกะ โนดะ และนางซานาเอะ ทาคาอิจิ  ซึ่งทั้งสี่คนล้วนเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
นายโยชิฮิเดะ ซึงะ ( คนซ้าย ) นายกรัฐมนตรีซึ่งกำลังจะลงจากตำแหน่ง แสดงความยินดีกับนายฟุมิโอะ คิชิดะ หัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่ และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีที่สูสีที่สุดครั้งหนึ่ง โดยต้องยืดเยื้อถึงรอบตัดสินหรือรอบชิงดำ ระหว่างผู้สมัครซึ่งได้คะแนนมากที่สุดสองคน แต่ยังไม่มีใครได้รับเสียงสนับสนุนถึง 50% จากการหยั่งเสียงรอบแรก นั่นคือ โคโนะ และคิชิดะ และท้ายที่สุดผลปรากฏว่า คิชิดะ วัย 64 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งทั้งรมว.กลาโหม และรมว.การต่างประเทศ คว้าชัยชนะเหนือโคโนะ ซึ่งเคยทำหน้าที่ว่าการทั้งสองกระทรวงเช่นกัน และตอนนี้เป็นรัฐมนตรีด้านการปฏิรูปและการประสานงานเรื่องวัคซีนโควิด-19 ด้วยคะแนน 257 ต่อ 170 คะแนน
จากซ้ายไปขวา : นางเซโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะ นายฟุมิโอะ คิชิดะ นางซานาเอะ ทาคาอิจิ และนายทาโร โคโนะ ร่วมแสดงความยินดีกับคิชิดะ

อนึ่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นต้องประกาศให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ภายในวันที่ 28 พ.ย.นี้ โดยเป็นการนับตามวาระการดำรงตำแหน่งของอาเบะ ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2560 แต่ลาออกก่อนกำหนดเมื่อปี 2563 เท่ากับว่า นโยบายต่างประเทศทั้งในด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจจะยังไม่น่าเปลี่ยนแปลงมากนักในเวลานี้ เนื่องจากทุกภาคส่วนต้องเน้นสถานการณ์ภายในก่อน โดยเฉพาะการฟื้นฟูญี่ปุ่นในทุกมิติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19.

เครดิตภาพ : AP