เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ภายหลังจากเหตุการณ์ฝรั่งทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงที่ภูเก็ตยังไม่จางหายหาย กลับมีเรื่องราวคล้ายกันโผล่ขึ้นใน จ.ราชบุรี เมื่อผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีตำรวจถูกชายชาวต่างชาติ สัญชาติอเมริกา อายุ 60 ปี ทำร้ายร่างกายโดยการบีบคอ จนทำให้เกือบเสียชีวิต จึงได้เดินทางไปสอบถามกับ ร.ต.อ.อรรถพร เปรมจิตร์ อายุ 59 ปี เล่าว่า วันเกิดเหตุได้ไปนั่งกินอาหารอยู่ที่ร้านค้าขายของชำในหมู่บ้าน โดยนั่งหันหลังให้กำแพง จากนั้นมีชาวต่างชาติเดินเข้ามาและเดินวนไปวนมา อยู่ๆก็ตรงเข้ามาบีมคอของตน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนและไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว

“ตอนที่เขาทำร้ายตอนนั้นผมกำลังหมดลมไปเลย คือไม่มีแรงที่จะปกป้องตัวเองแล้ว น้ำหนักตัวเขาเป็นร้อยกิโล ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความแล้ว ทางผู้ก่อเหตุส่งทนาย 2 คน มาขอไกล่เกลี่ย แต่ผมมีความประสงค์จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุคนนี้เคยบุกรุกบ้านข้างเคียง จนอยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่ได้ และตอนนี้ทราบว่าผู้ก่อเหตุถือวีซ่าสมรสอยู่ และมีอาชีพรับสอนพิเศษ” ร.ต.อ.อรรถพร กล่าว

ขณะที่ น.ส.ตวงพร ทำสะอาด อายุ 64 ปี เจ้าของร้านค้าในหมู่บ้าน เล่าวว่า ตอนเกิดเหตุชาวต่างชาติได้เอารถมาจอดหน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาวนเวียนอยู่ในร้าน 2-3 รอบ จากนั้นก็หันมาเจอผู้กองอรรถ จู่ๆเขาก็เดินเข้ามาบีบคอผู้กองอรรถอย่างแรง ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเล่นกัน แต่พอเห็นผู้กองอรรถหลังพิงข้างฝาแล้วเขาไม่สามารถขยับตัวได้ ตาขาว ปากอ้า แขนตก ตนก็เลยวิ่งออกไปร้องให้คนช่วย จากนั้นก็เข้าไปกระชากมือชาวต่างชาติคนนั้นออก ซึ่งตอนนั้นมือของผู้กองอรรถได้ตกไปแล้ว

น.ส.ตวงพร เล่าต่อว่า จากนั้นก็มีผู้จัดการบริษัทรับเหมาก่อสร้างเดินมาถามว่ามีอะไรกัน ตนก็เล่าว่าชายต่างชาติได้ใช้มือบีบคอผู้กองอรรถ โดยผู้จัดการก็ไล่ชาวต่างชาติคนนั้นให้ออกไป แต่ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมชูนิ้วกลางให้ระหว่างอยู่หน้าร้านตลอดเวลา ก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถก็ยังได้ผลักผู้จัดการจนเสียหลักไปโดนโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าร้านและจะขับรถชน ซึ่งปกติถ้าคนเราไม่รู้จักกันก็ไม่น่าจะทำกันแบบนี้ ไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอะไร ซึ่งตนเองก็ได้พยายามโทรฯหาภรรยาของชายชาวต่างชาติคนดังกล่าว แต่ก็บอกว่าตอนนี้เขาอยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถมาได้

ล่าสุด ร.ต.อ.พิพัฒน์ แป้งหอม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เจ้าของคดี ได้เชิญ ร.ต.อ.อรรถพร ผู้เสียหาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว และจะนัดพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย.