สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคีชีเนา ประเทศมอลโดวา เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศมอลโดวาออกแถลงการณ์ เรื่องการเชิญเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบ เพื่อรับทราบการคัดค้านอย่างถึงที่สุดของมอลโดวา ต่อการที่รัสเซียจัดหน่วยเลือกตั้งประธานาธิบดี ในภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย


ทั้งนี้ รัฐบาลมอลโดวายืนยัน การไม่อนุญาตให้มีการจัดการเลือกตั้งในภูมิภาคแห่งดังกล่าว และความพยายามรูปแบบใดก็ตาม “ถือว่าไม่สร้างสรรค์และท้าทาย”


ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ขณะที่สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่า ภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย เตรียมเปิดคูหาเลือกตั้ง 6 แห่ง ในวันที่ 17 มี.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันลงคะแนนวันสุดท้าย และเป็นวันลงคะแนนหลักของการเลือกตั้งผู้นำรัสเซีย ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 15 มี.ค.


อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียจัดให้ประชาชนในภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย ใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 มีการเปิดคูหาเลือกตั้งมากถึง 24 แห่ง


อนึ่ง สภาภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย มีมติเมื่อเดือน ก.พ. เรียกร้องรัฐสภาของรัสเซีย “มอบความปกป้องคุ้มครอง” ให้แก่ทรานส์นีสเตรีย “จากการกดดันทางเศรษฐกิจ” ของรัฐบาลมอลโดวา ที่กีดกันการนำเข้าสินค้าของภูมิภาค


ทั้งนี้ ภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย ประกาศแยกตัวเองออกจากมอลโดวา เมื่อปี 2533 หรือ 1 ปีก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต คณะผู้ปกครองภูมิภาคให้เหตุผลในเวลานั้นว่า มีความกังวลต่อการที่มอลโดวาอาจรวมชาติกับโรมาเนีย เนื่องจากมีความใกล้เคียงกันมากทั้งในทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม

ขณะที่กองทัพมอลโดวาและกองกำลังของภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย เคยสู้รบกันครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2535 แต่หลังจากนั้น รัสเซียส่งทหารรักษาสันติภาพเข้าไปประจำการในพื้นที่.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES