สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวในรายการให้สัมภาษณ์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โดยส่วนใหญ่เป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายภายในประเทศ แต่มีการกล่าวถึงนโยบายต่างประเทศเช่นกัน


ทั้งนี้ มาครงกล่าวถึงสงครามในยูเครน ว่าหากท้ายที่สุดแล้วรัสเซียเป็นฝ่ายชนะ “เครดิตความน่าเชื่อถือทั้งหมดของยุโรปจะเหลือศูนย์” ขณะเดียวกัน ผู้นำฝรั่งเศสวิจารณ์การที่บรรดาพรรคฝ่ายค้าน หนึ่งในนั้นคือพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของนางมารีน เลอ แปน งดออกเสียงรับรองข้อตกลงความมั่นคงระหว่างฝรั่งเศสกับยูเครน ส่วนพรรคฝ่ายซ้ายลงมติคัดค้าน “ไม่ใช่การเลือกสันติภาพ แต่เป็นการเลือกที่จะพ่ายแพ้”

FRANCE 24 English


ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวต่อไปว่า หากสงครามขยายวงกว้างเข้ามาในยุโรป “ต้องโทษรัสเซีย” ขณะเดียวกัน มาครงเรียกร้องยุโรป “อย่าขีดเส้นแดง” เกี่ยวกับสงครามในยูเครน เนื่องจากจะยิ่งเป็นการแสดงความอ่อนแอต่อทำเนียบเครมลิน และจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้กองทัพรัสเซียเดินหน้าสงครามในยูเครน


มาครงกล่าวว่า รัสเซีย “ถือเป็นฝ่ายตรงข้าม” เลี่ยงการใช้คำว่า ศัตรูหรือปรปักษ์ อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝรั่งเศสยืนยัน ไม่เคยมีความคิดทำสงครามโดยตรงกับอีกฝ่าย แต่สงครามครั้งนี้ ยุโรปไม่สามารถอยู่เฉยแล้วปล่อยให้รัฐบาลมอสโกเป็นฝ่ายชนะได้

นอกจากนี้ ผู้นำฝรั่งเศสยังคง “ไม่ตัดความเป็นไปได้” ของการส่งทหารเข้าร่วมการสู้รบในยูเครน แต่ปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียด


ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวถึงเรื่องนี้ ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อในประเทศ ว่าอันที่จริงแล้ว “ทหารตะวันตก” อยู่ในยูเครนมาตั้งแต่ต้น ซึ่งสื่อถือทหารหรือนักรบรับจ้าง แต่หากหมายถึง “ทหารอาชีพที่สังกัดกองทัพของประเทศหนึ่งประเทศใด” แล้วรัฐบาลประเทศนั้นส่งเข้ามาจริง สถานการณ์ในสมรภูมิไม่น่าเปลี่ยนแปลง ตามความเห็นของผู้นำรัสเซีย.

เครดิตภาพ : AFP