คณะกรรมการกำกับดูแลชายฝั่งทะเลแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าห้ามนักท่องเที่ยวตั้งแคมป์พักแรมหรือแคมป์ไฟช่วงกลางคืนในบริเวณริมชายหาดซานคาร์โพโฟโรเป็นระยะเวลา 2 ปี

ชายหาดซานคาร์โพโฟโร ตั้งอยู่ใกล้กับทางหลวงหมายเลข 1 ช่วงที่ตัดผ่านทางเหนือของเขตซานลูอิส โอบิสโพ เคาน์ตี ซึ่งเป็นพื้นที่ชายหาดสาธารณะเพียงแห่งเดียวในจุดชมวิวและแหล่งท่องเที่ยวดัง “บิ๊กเซอร์” ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามากางเต็นท์พักแรมได้ฟรี

คณะกรรมการชี้แจงว่า ทางการมีความจำเป็นต้องปิดหาดเนื่องจากหาดมี “ความเสื่อมโทรม” ตามรายงานของทีมงานที่ดูแลเมื่อไม่นานมานี้ โดยชี้ว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ชายหาดแห่งนี้เป็นจำนวนมากหลังจากที่มีผู้เผยแพร่ข่าวออกไปว่าสามารถมาตั้งแคมป์พักค้างคืนได้ฟรี ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ในการดูแล กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งรับผิดชอบตรวจตราและดูแลพื้นที่มีจำนวนคนไม่พอ, มีถังขยะไม่พอรองรับขยะจากนักท่องเที่ยว, พื้นที่จอดรถมีจำกัด, จุดบริการน้ำดื่มไม่พอ, มีหลุมก่อไฟไม่พอและจำนวนห้องสุขาไม่พอเพียง

สภาพดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องตามมา ซึ่งก็คือการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ไม่เป็นที่ รวมถึงปัญหานักท่องเที่ยวขับถ่ายไม่เป็นที่จนทั่วบริเวณ

นอกจากนี้ ชายหาดซานคาร์โพโฟโรยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์หลายชนิด เช่น นกหัวโตหิมะ (Western snowy plover) ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากความเสื่อมโทรมของพื้นที่ดังกล่าว

กรมป่าไม้แห่งสหรัฐมีแผนที่จะฟื้นฟูสภาพของชายหาดซานคาร์โพโฟโรและกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ในการตั้งแคมป์ค้างคืนในพื้นที่ ซึ่งจะเปิดให้บริการในอนาคต ระหว่างนี้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชายหาดได้ตามปกติในช่วงกลางวัน เพียงแต่ห้ามค้างคืนในพื้นที่เท่านั้น

ที่มา : foxnews.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES