เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านในวันนี้ว่า ในวาระการประชุมวันนี้เป็นการเตรียมประชุมกฎหมายสำคัญที่เข้าสู่สภา โดยในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมจะเข้าสู่สภาพิจารณารายมาตรา วาระ 2 และ 3 คาดว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาดว่าจะผ่านสภาได้ทั้ง 4 ร่าง ซึ่งอยากให้ประชาชนจับตามอง เนื่องจากร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคก้าวไกลยังมองว่ามีปัญหาอยู่บ้าง เนื้อหาในบางประเด็นเข้มงวดเกินพอดี นอกจากนี้ วิปฝ่ายค้านยังประชุมถึงกรอบระยะเวลาการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะให้งดประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทุกพรรคฝ่ายค้านเตรียมตัวอภิปรายอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงการจัดกำลังพลในการอภิปราย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ของพรรคอื่นตนยังทราบไม่มาก แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล จำนวนผู้อภิปรายอยู่ที่ประมาณ 30 คน ซึ่งจะแบ่งหมวดหมู่ในเรื่องประเด็นเศรษฐกิจ การทุจริตคอร์รัปชั่น การเมือง การศึกษา สิ่งแวดล้อม สังคม ส่วนการเรียงลำดับอภิปราย ขอไปพูดคุยกันอีกครั้งก่อน

เมื่อถามว่าเห็น สว. อภิปรายแล้วจะต้องนำมาปรับเกมฝั่ง สส.อย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ติดตามอยู่ มีบางส่วนที่หยิบยกมาใช้ได้ สส. แต่ละคนที่มีประเด็นของตัวเองอยู่แล้ว ก็ได้ติดตาม สว. อภิปราย รวมถึงฟังคำตอบที่รัฐมนตรีแต่ละคนชี้แจงด้วย ซึ่งก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนหรือมีคำถามเพิ่มเติม ฟังรัฐมนตรีบางท่านตอบแล้ว อาจจะต้องหยิบยกมาถามอีกรอบในสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่าแม้จะไม่มีการลงมติ แต่จะสามารถเขย่าจนปรับ ครม. ได้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในบางประเด็นเราก็คาดหวัง เพราะรัฐมนตรีอาจทำหน้าที่บกพร่อง ซึ่งคาดหวังว่ารัฐบาลคงจะหยิบไป อย่างน้อยๆ นายกรัฐมนตรีก็คงจะมีการกำชับรัฐมนตรีบางท่านให้ปรับปรุงการทำงาน โดยการปรับ ครม. ก็จะเป็นวิธีการที่ดีก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาล บางกระทรวงอาจจะมีผลงานที่ไม่ดี หรือมีข้อครหาใดๆ การปรับ ครม. ก็เป็นทางออก

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านเองก็ถูกจับตามอง อย่าง น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ และน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายผิดมาตรา และมีการอ่านเลขงบผิดด้วย จะต้องมีการกำชับหรือตักเตือนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไปพูดคุยแล้ว มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถามว่าควรผิดหรือไม่ ตนก็ยอมรับว่าไม่ควรผิด

“ผมคิดว่าใช้คำว่าตักเตือนแรงไปเลยนะ มันก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่เราก็ให้คำแนะนำแล้วกันว่าควรจะทำอย่างไร ผมรู้นะว่าตัวเลขหลายหลัก ถ้าเราไม่มีอยู่ในสคริปต์ อย่างน้อยๆ ก็ต้องดูทีละตัว ผมก็แนะนำไปว่าทำอย่างไร แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ ผมก็คิดว่าสามารถปรับปรุงตัวเองได้ ทั้งคู่ก็เป็น สส. สมัยแรก ปีแรกด้วยซ้ำ ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวอีกเยอะ ผมคิดว่าประเด็นที่มันเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ถ้าเรามองย้อนกลับไป 10 กว่าปีที่แล้ว ประเด็นการพูดผิดแล้วตะกุกตะกัก แล้วนำมาโจมตีกันว่าไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง ผมว่ามันพอได้แล้ว มันคงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่ามีเรื่อง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เต้นออกนอกห้องประชุมด้วย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “ก็ประท้วงกันไปครับ” ตนคิดว่าถ้าพรุ่งนี้ฝั่งรัฐบาลหารือในสภา แล้วนายวิโรจน์ลุกขึ้นชี้แจง ก็เป็นสิทธิของนายวิโรจน์

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ห้ามใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มีอะไร ส่วนจะกระทบภาพลักษณ์หรือไม่ ตนคิดว่าก็วิพากษ์วิจารณ์กันได้ ส่วนที่มีวิจารณ์ว่าการเมืองใหม่แต่ยังทำเหมือนเดิมอยู่นั้น ตนยังไม่เคยเห็นว่า 10 ปีที่แล้ว เขาเต้นกันในสภาเลย อาจจะใหม่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะไปพูดคุยกับนายวิโรจน์อีกครั้ง

เมื่อถามถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ตัวเลขคนที่ไม่ได้มาโหวต จะสะท้อนอะไรหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จากที่สอบถามไปหลายคนก็มีความผิดพลาดจริงๆ บางคนกำลังเตรียมอภิปราย ม.152 อยู่ แต่ไม่ได้ยินเสียงออด ส่วนที่เหลือก็สามารถชี้แจงได้.