สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่า ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยามาเลเซีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เผยให้เห็นว่า พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของคาบสมุทรมาเลเซีย เผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดอย่างน้อย 35 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดว่า อากาศร้อนและภาวะแห้งแล้ง จะคงอยู่จนถึงช่วงกลางเดือน เม.ย. นี้

อนึ่ง คลื่นความร้อนรุนแรงทำให้ชาวมาเลเซียคนหนึ่ง วัย 22 ปี เสียชีวิตจากโรคลมแดด ตลอดจนเพิ่มความเสี่ยงของการขาดแคลนน้ำ และก่อให้เกิดการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรอย่างร้ายแรง

ด้านนายนิค นาซมี นิค อาห์หมัด รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเลเซีย กล่าวว่า ทางการมาเลเซียกำลังใช้โดรนในการสำรวจพื้นที่พรุ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ และติดตามระดับน้ำที่ลดลงในเขื่อนหลายแห่งของประเทศ อีกทั้งรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ จะหาวิธีปกป้องคนงานก่อสร้างที่ต้องทำงานหนักหลายชั่วโมง ภายใต้แสงแดดที่ร้อนจัดเช่นกัน

“สำหรับเหตุการณ์ที่สามารถคาดการณ์ได้มากที่สุด พวกเรามีแนวทาง ระบบ และนโยบายต่าง ๆ แล้ว แต่เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เพราะระดับความรุนแรงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ” นิค นาซมี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุด รัฐบาลมาเลเซียก็เตรียมพร้อมที่จะปิดโรงเรียน และธุรกิจต่าง ๆ ด้วย

ทั้งนี้ ทางการมาเลเซียมีแผนจะลงทุนในพืชผลที่ทนทานอากาศร้อน เพื่อเป็นการตอบสนองในระยะยาว ต่อคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และรุนแรงมากกว่าเดิม

“อากาศร้อนทำให้เกิดปัญหากับข้าวนำเข้าของเรา และสร้างแรงกดดันมากขึ้น ดังนั้น กระทรวงเกษตรมาเลเซีย จึงกำลังพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง” นิค นาซมี กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : AFP