เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่รัฐสภา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า สืบเนื่องมาตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ได้ขับเคลื่อนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย และทราบว่า มีการอนุมัติงบกลางเพื่อเยียวยาเกษตรกรฯ รวมถึงมีการยกร่าง พ.ร.บ.ลำไยเพื่อแก้ไขปัญหา อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งยื่นเข้าสภาไปแล้ว ดังนั้น จึงหวังว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งน่าจะมีพรรคการเมืองอื่นๆ ร่วมยื่นด้วย น่าจะผ่านสภาเร็วๆ เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยต่อไป 

ด้าน นายนเรศ ธำรงพิทยคุณ สส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในผู้ร่วมยกร่าง พ.ร.บ.ลำไย กล่าวว่า ลำไย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจในภาคเหนือ และปัจจุบันมีการขยายการปลูกทั้งหมด 33 จังหวัดทั่วประเทศ ผลผลิตสร้างรายได้ต่อปีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่ช่วงโควิดระบาด สร้างผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกลำไยมาตลอด และยกร่าง พ.ร.บ.ลำไย พ.ศ. … ซึ่งได้เสนอเข้าสภาไปแล้ว โดยเนื้อหาสาระสำคัญคือ มีการจัดทำยุทธศาสตร์บริหารจัดการลำไย มีแผนแม่บท โดยมีนายกฯ หรือรองนายกฯ ที่นายกฯ มอบหมาย เป็นประธาน มี รมว.เกษตรฯ, รมว.พาณิชย์, ปลัดกระทรวงเกษตรฯ, ปลัดกระทรวงพาณิชย์, สภาอุตสาหกรรม, สภาหอการค้า, ตัวแทนเกษตรกร 3 คน, ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านลำไยอีก 3 คน ร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ซึ่งหากกฎหมายดังกล่าวผ่านและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลผูกพันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการเรื่องนี้ต่อไป.