สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ว่า น.ส.มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงการที่รัฐบาลมอสโก ซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ใช้สิทธิวีโต้ การขยายวาระการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ ในการสังเกตการณ์การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นเอสซี ที่มีต่อเกาหลีเหนือ คือการบ่งชี้ว่า มาตรการจำกัดของนานาชาติที่มีต่อเกาหลีเหลือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้ช่วยยกระดับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค


ในทางกลับกัน กลไกการตรวจสอบที่ดำเนินอยู่ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเจรจาตามหลักการทูต ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การวีโต้ของรัฐบาลมอสโก “สอดคล้องกับผลประโยชน์ของรัสเซีย”


ด้านนายหลิน เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งคัดค้าน “การคว่ำบาตรอย่างมืดบอด” ต่อเกาหลีเหนือ และเน้นย้ำว่า การเจรจาและการดำเนินการตามหลักการทูตเท่านั้น ที่จะสามารถคลี่คลายปัญหาเรื้อรังทั้งหมด อนึ่ง จีนซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซีเช่นกัน ใช้สิทธิงดออกเสียง


แม้สมาชิกยูเอ็นเอสซีอีก 13 ประเทศที่เหลือลงมติสนับสนุน แต่การคัดค้านของรัสเซียทำให้มติมีอันต้องตกไป และจะเป็นการสิ้นสุดวาระการดำเนินงานของคณะผู้เชี่ยวชาญ ในวันที่ 30 เม.ย. 2567


นายฮวาง จุน-กุก เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิอย่างไม่มีเหตุผล และเป็นการตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลาง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง “จากการเจรจาที่ไม่สุจริต” และเป็นการโอบอุ้ม อีกทั้งสนับสนุนให้เกาหลีเหนือเดินหน้าทำสิ่งที่ผิดกฎหมายต่อไป


การลงมติดังกล่าวของยูเอ็นเอสซีเกิดขึ้น หลังคณะผู้เชี่ยวชาญเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้ ว่ากำลังตรวจสอบข้อมูลจากหลายกระแส ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือส่งมอบอาวุธให้แก่รัสเซีย เพื่อให้อีกฝ่ายนำไปใช้ในสมรภูมิยูเครน แลกกับการที่รัฐบาลมอสโกมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม


การจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อสังเกตการณ์การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นที่มีต่อเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นเมื่อปี 2549 โดยมีการต่อเวลาทุก 1 ปี ขณะที่ยูเอ็นเอสซียกระดับมาตรการกดดันเกาหลีเหนือระหว่างปี 2559-2560 แต่จีนและรัสเซียเริ่มโน้มน้าวที่ประชุม ตั้งแต่ปี 2562 ให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ


อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานว่า นายเซอร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศ (เอสวีอาร์) เยือนกรุงเปียงยาง ระหว่างวันที่ 25-27 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อพบหารือกับนายรี ชาง-แด รมว.ความปลอดภัยแห่งรัฐของเกาหลีเหนือ เพื่อหารือเกี่ยวกับ การขยายขอบเขตความสัมพันธ์ ให้ครอบคลุมทุกมิติของกิจการข่าวกรอง และความเคลื่อนไหวของ “กองกำลังที่ไม่เป็นมิตร”.

เครดิตภาพ : AFP