เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายอรรถพล​ เจริญชันษา​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.พังงา เพื่อสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง​และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค. โดยมีนายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) หัวหน้า​อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ

โดยคณะฯ ได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เพื่อดำน้ำลึกสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง​และสิ่งมีชีวิต บริเวณจุดดำน้ำลึก “เรือนกล้วยไม้ (East of Eden)” และบริเวณจุดดำน้ำลึก “กองหินแฟนตาซี (Fantasy Reef)”  และเดินทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.3 (เกาะตาชัย) และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มส. 3 (อ่าวช่องขาด) และเดินทางไปเยี่ยมหมู่บ้านมอแกน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทย มอแกนและสาธารณสุขมูลฐานชุมชน

นายอรรถพล  กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อสำรวจและติดตามการอนุรักษ์แนวปะการัง​และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล  สำหรับในพื้นที่ของเกาะตาชัย และอ่าวงวงช้างที่เกาะ 8 ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีแผนจะส่งเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอุทยานทางทะเล ซึ่งที่ผ่านมาเกาะตาชัยเคยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก แต่ต้องปิดตัวลงตั้งแต่ 15 พ.ค. 2559 เพราะสภาพธรรมชาติเสื่อมโทรม และตอนนี้จึงอยู่ในแผนงานที่จะกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยคาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี เพื่อศึกษาผลกระทบให้รอบด้าน และต้องผ่านการหารือจากหลายฝ่ายด้วย ซึ่งการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในอุทยานฯ เป็นหนึ่งในนโยบาย รมว.ทรัพยากรฯ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แต่ก็อยู่ภายใต้การกำหนดแผนที่เหมาะสมว่าจะไม่กระทบต่อทรัพยากรฯ ในทะเล ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความสมดุลของระบบนิเวศเป็นสำคัญที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อธรรมชาติที่กำลังฟื้นตัวด้วย

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ มีความสมบูรณ์ของปะการังและปลาทะเลที่สวยงาม มีบางพื้นที่ที่มีปะการังฟอกขาว จำเป็นต้องมีการวัดอุณหภูมิน้ำตลอดหรือต้องปิดพื้นที่เพื่อให้เกิดการฟื้นฟู ส่วนการจัดระเบียบพื้นที่กับชุมชนมอแกนนั้น นับว่ามีความสัมพันธ์อันดี มีการให้ความร่วมมือกับอุทยานฯ ในทุกด้าน ซึ่งชุมชนก็มีรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ได้กำชับหัวหน้าอุทยานฯ ต้องควบคุมประชากรให้มีความเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และให้ดูแลความสะอาดของอาคารสถานที่ให้เป็นระเบียบด้วย.