ที่อำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น ในเขต อ.ลำปลายมาศ ,หนองหงส์ ,นาโพธิ์ ,คูเมือง ,พุทไธสง และอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ รวม 6 อำเภอ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม”รวมพลังรักศรัทธาแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ ที่ปรึกษามูลนิธิอาณัตพลซารัมย์ นายปิยะ ปิจนำ รองผู้ว่าฯบุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน ชาวบ้านแต่ละอำเภอต่างจัดริ้วขบวนสื่อถึงโทษภัยยาเสพติดไปตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ สำหรับหนึ่งในขบวนได้มีชายที่พ้นโทษค้ายาเสพติดอาสามาเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีอยู่ในริ้วขบวนด้วย นอกจากนี้ยังมีการร่วมลงนามระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นรูปธรรม โครงการดังกล่าวจัดขึ้นมีมูลนิธิ”อาณัตพลซารัมย์”เป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อสานต่อโครงการต้านยาเสพติดในครั้งที่ผ่านมาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมโครงการหันไปใช้ยาเสพติดเช่นเดิม จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบที่เชื่อว่าจะเป็นการขับเคลื่อนที่ได้ผล

นายโสภณ ซารัมย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิอาณัตพลซารัมย์ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ ประเภทครั้งคราว ,ประเภทเสพติดและประเภทจิตรเวช ที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ คือการนำเอาผู้เสพมาบำบัด หรือการเข้าค่าย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะเคยทำมาแล้ว ผู้เสพย้อนกลับมาเสพอีกเหมือนเคย ต้องแก้ไขตั้งแต่ต้นน้ำ คือกลุ่มที่เสพครั้งคราว หรือกลุ่มสีเหลือง จะไม่ขยับไปสีส้มคือเสพติด จะทำอย่างไรกลุ่มสีส้มจะไม่ขยับกลายเป็นกลุ่มจิตรเวชได้ ทำอย่างไรจะเอาให้อยู่ไม่ให้ข้ามไปเป็นผู้เสพติดให้ได้

มูลนิธิฯจึงหาแนวทางการบูรณาการไม่ให้ประชาชนทั่วไปต้องหวาดผวากับกลุ่มคลั่งยา หรือกลุ่มจิตรเวช ดังนั้นทางมูลนิธิ จึงได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มกระบวนการแรก ในแต่ละหมู่บ้านจะมีกล่องลับแจ้งเบาะแสใครเสพ ไม่เสพ ใครขายไม่ขาย แล้วเอากลุ่มเสพครั้งคราว เอามาเข้าค่ายให้ได้ กลุ่มที่เป็นสีแดง คือเอาไม่อยู่ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามขั้นตอน โครงการครั้งนี้ไม่ใช่เป็นโครงการแบบพิธีกรรม จะทำจริงทุกขั้นตอน เพราะยาเสพติดตอนนี้มันเกินกำลังกับการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว ตอนนี้ปัญหายาเสพติดมันเกินกว่าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะจัดการได้ มันเข้าไปถึงคนทุกคนตั้งแต่สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา ไปจนถึงสังคมตั้งแต่ท้องถิ่น ระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ เบื้องต้นทางมูลนิธิจะมอบรางวัลให้กับหมู่บ้านที่ทำให้ปลอดยาเสพติดได้ มูลนิธิจะมอบเงินพัฒนาหมู่บ้านหมู่ละ 1 แสนบาท

นายโสภณ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้อยากให้รัฐบาลเลิกให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสถิติที่มันไม่ใช่ของจริงเราจึงจะได้แก้ไขปัญหา ไม่ว่าเรื่องการศึกษา หรือข้อมูลอื่น เช่นข้อมูลอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ทุกหน่วยงานมีมาตรการอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ต้องมาปิดบังจำนวนผู้เสียชีวิต เพราะจะได้แก้ไขอีกในปีหน้า ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรหลอกตัวเอง หลอกสังคมมันจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดไม่รู้ว่าใครปิดบังข้อมูลเพราะเป็นมานานแล้ว ส่งที่รัฐบาลควรจะปฏิบัติควรจะให้ขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เขาจะได้ทำเต็มที่ เราต้องอยู่บนโลกของความเป็นจริง ไม่ต้องอาย กรณีห้วง7 วันอันตรายของเทศกาลมีคนเสียชีวิตเท่าไหร่ มองหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วเอามาแก้ไข เช่นกรณียาเสพติดก็ไม่ต้องปิดบังข้อมูล จะได้นำมาวเคราะห์ว่าคนเสพยาเพราะอะไร เพราะขาดความอบอุ่น หรือเสพเพราะยาเสพติดราคาถูก หรืออื่นๆ ที่สำคัญชาวบ้านจะได้รับรู้ข้อมูลที่แท้จริง หากปล่อยไว้เชื่อว่าจะไม่มีใครแก้ไขปัญหายาเสพติดได้