เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าคดี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องคดีความผิดอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2558 โดยระบุว่า ขณะนี้อัยการยังไม่มีความเห็นและคำสั่งคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวนส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งยังไม่ครบถ้วน สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งไปในวันที่ 29 พ.ค. 2567 เวลา 09.00 น. โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจและนายประกัน เป็นผู้มารับฟังคำสั่งเลื่อนแทนตัวผู้ถูกกล่าวหา

เมื่อถามถึง เรื่องการสอบสวนเพิ่มเติม มีการเรียกพยานหลักฐานจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเอกสารสำเนาต้นขั้วมาได้หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ทางโฆษกไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นรายละเอียดเชิงลึกในคดี

เมื่อถามว่า เมื่อถึงวันนัดฟังคำสั่งนัดหน้า หากนายทักษิณยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาอีก สามารถทำได้หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ต้องหาสามารถยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม รวมถึงผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องในคดี แต่เป็นดุลพินิจของอัยการ จะมองว่าเป็นประเด็นเดิมหรือเป็นการประวิงหรือไม่ ถ้าเป็นก็สั่งยุติได้ ทุกอย่างอยู่ภายใต้หลักการ

ด้าน นายวิญญัติ กล่าวว่า ปกติคดีอาญาทั่วไป ทางผู้ต้องหาหรือทนายต้องประสานกับอัยการล่วงหน้า 1 วัน ว่าในนัดครั้งนี้ อัยการจะสั่งหรือไม่ ถ้านัดสั่งฟ้องก็ต้องเตรียมหลักทรัพย์มายื่นประกัน หากมีเหตุอื่นที่ยังไม่สามารถสั่งฟ้อง ท่านก็จะแจ้งเรามา ทางผู้ต้องหาจะมาเองหรือจะมอบอำนาจให้นายประกันหรือทนายความมาแทนก็ได้ ส่วนในเรื่องคดี แม้ว่าตนจะเป็นทนายความดูแล แต่ตนขอไม่ลงรายละเอียดในการต่อสู้คดีเป็นความลับ ประกอบกับว่าอัยการสูงสุดได้สั่งสอบเพิ่มเติม ซึ่งมีรายละเอียดอยู่หลายประการ ส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา เราก็ให้การเพิ่มเติมไป หากเกี่ยวกับพยานคนอื่นหรือพยานคนกลาง ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนกับอัยการที่จะมอบหมาย ในรายละเอียดเราไม่ทราบและขออนุญาตไม่เปิดเผย ไม่ลงรายละเอียดทั้งหมด หากพูดไปอาจกระทบคดี

ส่วนครั้งหน้าถ้ามีการสั่งฟ้องเราก็มาตามนัด และก็ไปปรากฏตัวที่ศาล เราก็มีหน้าที่ขอปล่อยชั่วคราว ตามอัตราที่ศาลกำหนดไว้ แต่ถ้าอัยการสูงสุดหรือรองอัยการสูงสุดได้รับมอบหมายไม่ฟ้อง ก็ถือว่าคดีนั้นเสร็จสิ้นไป เป็นไปตามระเบียบของอัยการอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงความมั่นใจ นายวิญญัติ กล่าวว่า ความมั่นใจนั้น บอกเป็นเปอร์เซ็นต์หรือตัวเลขไม่ได้ แต่เราขอต่อสู้ตามสิทธิ ตามพยานหลักฐาน ตามข้อกฎหมาย ซึ่งมี 2 เรื่องจากข้อกล่าวหา คือ พ.ร.บ.คอมพ์ กับมาตรา 112 เราต้องต่อสู้ว่าเข้าองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ต้องมีข้อเท็จจริงที่ค่อนข้างครบถ้วน ถ้าไม่ครบถ้วน เราก็เสนอให้ทางอัยการสูงสุด ถ้าท่านเห็นว่ามีประโยชน์ ทำให้การสอบสวนครบถ้วนและต้องเป็นธรรม ท่านก็จะให้สอบเพิ่มเติม ก็อย่างที่เห็นท่านให้สอบเพิ่มเติม ตนก็พูดได้เท่านี้ เพราะไม่สามารถลงรายละเอียดคดีได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายทักษิณ นายวิญญัติ กล่าวว่า ในเรื่องคดี ท่านก็มั่นใจอยู่แล้วเพราะท่านไม่มีเจตนา ส่วนการใช้ชีวิตก็ปกติตามปุถุชน ท่านก็เป็นคนชรา มีอาการบาดเจ็บและได้รับการรักษา ขั้นตอนต่อไป ท่านก็ต้องดูแลตัวเอง.