สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เกี่ยวกับเหตุการณ์เขื่อนแตกที่เมืองออร์สก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของแคว้นโอเรนเบิร์ก ตั้งอยู่บนเทือกเขาอูราล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย และมีพรมแดนติดกับคาซัคสถาน เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่ชุมชน จนต้องมีการอพยพประชาชนแล้วจำนวนมาก และต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น


ระดับน้ำในพื้นที่ประสบภัยยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากฝนตก ระดับน้ำจากเขื่อนที่ไหลเข้ามาสมทบ และธารน้ำแข็งบนเทือกเขาอูราลที่ละลายมากและเร็วกว่าปกติ ซึ่งบ่งชี้ถึงความรุนแรงจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก หนึ่งในเมืองซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ เมืองโอเรนเบิร์ก ในแคว้นโอเรนเบิร์ก


ทั้งนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำอูราล หนึ่งในแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่าน สะสมที่ระดับสูงเกือบ 12 เมตร ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อันตรายมากกว่า 2.5 เมตร มีการอพยพประชาชนในเมืองโอเรนเบิร์กและเมืองใกล้เคียงแล้วมากกว่า 13,000 คน ส่วนบ้านเรือนมากกว่า 11,000 หลังคาเรือนในพื้นที่ ยังคงจมอยู่ภายใต้ระดับน้ำท่วมสูง


อีกด้านหนึ่ง คาซัคสถานซึ่งมีพรมแดนทางเหนือติดกับรัสเซีย เป็นระยะทางยาวประมาณ 7,500 กิโลเมตร เผชิญกับภัยน้ำท่วมครั้งนี้เช่นกัน โดยมีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 102,000 คน และมีรายงานบ้านเรือนเกือบ 4,000 แห่ง ยังคงจมอยู่ภายใต้ระดับน้ำท่วมสูง.

เครดิตภาพ : AFP