วันที่ 30 เม.ย. 67 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับ ครม.และรอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ รมว.การต่างประเทศคนใหม่ หลังจากที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาในวันนี้เรียกรัฐมนตรีใหม่ และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเข้ามาหารือในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการทำงาน และการขับเคลื่อนนโยบาย โดยมีบุคคลที่เข้ามาพบนายกรัฐมนตรี เช่น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ได้ติดตามความคืบหน้าของการปรับปรุงกฎหมายและขั้นตอนที่จำเป็นเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าข้ามแดน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลของการนำเข้าและส่งออกสินค้าข้ามแดนหรือระบบ National Single Window (NSW) ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้สามารถใช้ได้ภายในวันที่ 1 ก.ย. และสามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจในการส่งออกและนำเข้าสินค้า

โดยในสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะเรียกคณะทำงานในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ 5 หน่วยงาน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เข้าหารือเพื่อเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดขึ้นจริง ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ โดยภายใน 2-3 เดือนหลังจากนี้จะมีการวางระบบออนไลน์เพื่อให้การประสานงานข้ามกระทรวงเกิดความสะดวกมากขึ้น ซึ่งการทำงานบูรณาการของหลายหน่วยงานเพื่อที่จะมีหน้าต่างเดียวในการเข้ามาติดต่อให้เกิดความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้ระบบอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจเกิดขึ้นจริงภายในวันที่ 1 ก.ย. และเปิดระบบได้เต็มรูปแบบภายในวันที่ 1 ต.ค. 67

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายปานปรีย์ได้รับมอบหมายในการกำกับดูแลหน่วยงาน ก.พ.ร. เมื่อนายปานปรีย์ลาออกไป การทำงานของ ก.พ.ร.จะได้รับผลกระทบหรือไม่ นายธงทอง กล่าวว่า ตนในฐานะกรรมการในคณะกรรมการ ก.พ.ร.และทำงานกับ ก.พ.ร.อยู่ มองว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเราพร้อมที่จะทำงานกับผู้ที่รับผิดชอบทางนโยบาย ซึ่งก็ต้องรอว่านายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีท่านใดมากำกับดูแล ก.พ.ร.อีกที