เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ในงานแถลงข่าว “สว.ชุดใหม่ THAILAND SELECT” ซึ่งจัดโดยมติชน–ข่าวสด โดยมีผู้สนใจสมัครรับเลือก สว. และผู้สนใจเข้าร่วมงานพร้อมแสดงความคิดเห็นต่อกระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะความเห็นต่อประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่อง การมีลักษณะอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ซึ่งมีการแสดงความเห็นกันอย่างหลากหลาย ทั้งไม่เห็นด้วยกับค่าสมัคร 2,500 บาท การเขียนกติกาที่อาจจะเอื้อคนบางกลุ่ม ในการสื่อสารแนะนำตัวมีข้อจำกัด ทำให้ผู้สมัครไม่รู้จักกัน รวมถึงยังมีผู้ร่วมแสดงความเห็นบางคนซึ่งระบุว่า ต้องการเป็นผู้สมัครรับเลือก สว.เพื่อหวังจะเข้าไปเป็นโหวตเตอร์เลือก สว.ที่ตนเองอยากได้อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่บางคนระบุว่า ตั้งใจสมัคร สว. เพราะมีแรงบันดาลใจจาก สว.ชุดปัจจุบัน โดยหากได้รับการเลือกเป็น สว.จะไม่ทำตัวแบบ สว.ชุดปัจจุบันเด็ดขาด

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวว่า เข้าใจว่าคนอึดอัดกับกติกาการเลือก สว.นั้น ต้องขอแก้ตัวแทน กกต.เพราะเขาเองก็ทำงานภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ต่างๆ รวมไปถึงระเบียบต่างๆ ถ้าพูดถึงแบบฟอร์ม สว.3 จะเป็นตัวที่มีความสำคัญ เพราะเป็นการแนะนำตัวเราเอง จะถูกนำไปใช้เผยแพร่ให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน ต้องเรียบเรียงให้ดี ส่วนระเบียบแนะนำตัวนั้น ตนขอบอกว่าเป็นการออกระเบียบได้เฮงซวยมาก ทั้งที่ใช้เวลานานแต่ออกมาได้แค่ 3 หน้า ทั้งนี้ ตนอยากให้ดูระเบียบข้อ 11 ให้ดี ต้องระวัง ถ้าวันที่ 11 พ.ค. หรือ 12 พ.ค.ที่จะออกกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. ถ้ามีผู้ที่ทำสื่ออยู่แล้วไปลงสมัคร อาจจะต้องระวังการออกหน้าสื่อ ซึ่งไม่สามารถใช้อาชีพตัวเองเพื่อเป็นการแนะนำตัว นอกจากนี้ระเบียบยังห้ามผู้สมัครให้สัมภาษณ์สื่อ และสื่อห้ามไปสัมภาษณ์ผู้สมัคร ดังนั้นตนคงมองว่าเป็นระเบียบที่ออกได้แย่มาก ทำให้ผู้สมัคร สว.ไม่มีโอกาสได้รู้จักกันเลย จะทำให้เป็นการรู้จักกันและเลือก สว.ในที่มืด แล้วเราจะได้ สว.อย่างไร ก็ลองไปคิดกันเอง

นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิเคราะห์การเมือง กล่าวว่า การเลือก สว.ครั้งนี้ เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน คือสถานการณ์ที่คนอยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงจากกลไกที่ถูกครอบงำ ซึ่งถ้าดูแล้วผู้มีอำนาจที่ต้องการให้เลือก สว.นี้เงียบที่สุด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภายใต้เสียงประชาชนไร้ค่านั้น คนที่เป็นผู้สมัคร สว.จะเป็นคนที่ทำให้มันมีค่า และหนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ  

นางนันทนา นันทวโรภาส  กล่าวว่า การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นการเลือกที่วิปริต และวังเวง ไม่แน่ใจว่าเลือก สว.หรือเลือกสัปเหร่อเพราะมันเงียบมาก ดูไม่มีความโปร่งใสเพราะในวันเลือกนั้น ผู้สมัครจะถูกเก็บโทรศัพท์ ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าเราเห็นเมื่อการกระซิบหรือทำอะไรกันที่ไม่ชอบมาพากลแล้ว เราจะมีหลักฐานอะไร ดังนั้นอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันรณรงค์ให้การเลือก สว.ครั้งนี้ไม่เงียบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด

นายอธึกกิต แสวงกุล นักเขียนในนาม ใบตองแห้ง กล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะมีคนตื่นตัวที่จะสมัคร สว.อีกเยอะ ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ในสองขั้ว สิ่งที่ตนคาดหวังขั้นต่ำสุด คือ อยากให้มีการเลือกแบบกระจัดกระจายในหลายๆ กลุ่ม เพราะแพ็กเสียงไม่ได้ และกระแสสังคมจะกดดันให้มีการลงมติที่คล้อยตามประชาธิปไตย และความคาดหวังในขั้นถัดมา คือ อยากให้ผู้ที่ได้เป็น สว.มีความเป็นประชาธิปไตยเกินครึ่ง และความคาดหวังสุดท้าย คือ จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้มี สว.อีกต่อไป.