สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าอิสราเอลจะไม่มีวันยอมเปิดโอกาส ให้กลุ่มฮามาสยึดครองฉนวนกาซาได้อีก รวมถึงการที่อีกฝ่ายอาจกลับมาฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร แล้วกลับมาคุกคามข่มขู่ชาวอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งด้วย


ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูยืนกรานว่า อิสราเอลจะไม่ยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มฮามาส เนื่องจากถือเป็น “การยอมแพ้” และจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายสูงสุดของสงครามครั้งนี้ นั่นคือการต้องกวาดล้างกลุ่มฮามาให้สิ้นซาก


ด้านกลุ่มฮามาสเผยแพร่แถลงการณ์ของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมือง ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่กาตาร์ วิจารณ์เนทันยาฮูว่า “ยังคงประดิดประดอยวาทกรรม” เพื่อใช้เป็นข้ออ้าง ของการเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา การขยายขอบเขตของวงจรแห่งความขัดแย้ง และการทำลายความพยายามของทุกฝ่าย ที่กำลังเร่งผลักดันการหยุดยิงและกระบวนการสันติภาพ


อย่างไรก็ตาม ฮานิเยห์ยืนยันข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มฮามาส นั่นคือ “การหยุดยิงถาวร” การที่อิสราเอลต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา การเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการเปิดทางให้ประชาชนซึ่งพลัดถิ่นฐานจากภาคเหนือ ลงมายังภาคใต้ของฉนวนกาซา สามารถเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ อิสราเอลยกระดับมาตรการปิดล้อมฉนวนกาซา ตั้งแต่ช่วงต้นของสงคราม ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 และยังคงยืนยันการใช้ปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ที่อิสราเอลกล่าวว่า “คือฐานที่มั่นแห่งสุดท้าย” ของกลุ่มฮามาส

อนึ่ง อิสราเอลและกลุ่มฮามาสเคยหยุดยิงร่วมกันมาแล้วครั้งหนึ่ง ในช่วงสงครามครั้งนี้ คือระหว่างปลายเดือน พ.ย. จนถึงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลานาน 1 สัปดาห์ โดยมีการปล่อยตัวประกันและแลกเปลี่ยนนักโทษกันตามเงื่อนไข.

เครดิตภาพ : AFP