จากกรณีเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง งานสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง เสียชีวิตหลังทำการอดอาหาร และน้ำประท้วงกระบวนการยุติธรรมนานกว่า 100 วัน จากการไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล โดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ น.ส.เนติพร เสียชีวิตก่อนนำตัวส่งถึงแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต ทั้งยังระบุด้วยว่า การรักษาพยาบาล น.ส.เนติพร จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น มีการทําผิดพลาด คือ มีการใส่ท่อช่วยหายใจผิดตําแหน่ง โดยใส่ในหลอดอาหารแทนการใส่ในหลอดลมเพื่อนําออกซิเจนเข้าไปช่วยในการหายใจ รวมถึงยังกล่าวว่าแพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ได้พบสารบางอย่างที่สูงผิดปกติในร่างกายของบุ้ง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทนายกฤษฎางค์ ได้รับเอกสารจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 26 แผ่น ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการกู้ชีพในเช้าวันที่ 14 พ.ค. แต่ยังไม่ได้รับไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์ โดยได้กำหนดให้ทางเจ้าหน้าที่มอบให้ภายในวันศุกร์ที่ 24 พ.ค. ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่ บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าไปขอไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิด ว่า เมื่อช่วงเช้าตนเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนเจ้าหน้าที่ได้ขอไปปรึกษากับผู้บริหาร ก่อนได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถให้ไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 14 พ.ค. 67 ได้ แต่สามารถรับชมได้เท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ในกล้องวงจรปิดที่ตนประสงค์ขอไฟล์นั้น คือ ภาพเหตุการณ์ช่วงที่ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วย (ห้อง 2/3) ในเวลา 06.15 น. ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบุ้ง เพื่อจะดูว่ามีความสอดคล้องกับรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติในเอกสารการรักษาพยาบาลที่เจ้าหน้าที่ รพ.ราชทัณฑ์ มอบให้ตนหรือไม่ อาทิ มีการปั๊มชีพจร (CPR) จริงหรือไม่ ใช้ระยะเวลาในการปั๊มชีพจรนานเท่าไร ปั๊มต่อเนื่องตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ หรือมีการเว้นระยะห่าง มีการช่วยเหลือจริงหรือไม่ มีการหิ้วบุ้งลงจากชั้น 2 ไปยังชั้น 1 (ห้อง ICU) อย่างไร รวมถึงขั้นตอนการเอกซเรย์ปอดและสแกนสมอง (CT SCAN) เกิดขึ้นช่วงไหน ดังนั้น ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่จะบอกได้ว่าการรักษาพยาบาลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้มาตรฐานแค่ไหน ทั้งนี้ ในเมื่อไม่มีการให้ไฟล์ภาพ ตนจึงไม่ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เชิญให้ตนดูภาพเช่นกัน

นายกฤษฎางค์ เผยอีกว่า สำหรับ 3 เหตุผลที่กรมราชทัณฑ์ได้ปฏิเสธไม่ให้ไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิด คือ 1.ในภาพการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ระหว่างการรักษาพยาบาลของบุ้ง มีภาพของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ติดเข้าไปในภาพด้วย จึงเป็นข้อกังวลเกรงว่าจะไปกระทบต่อเจ้าหน้าที่ 2.เนื่องจากภาพในกล้องวงจรปิด คือ สถานที่ของราชทัณฑ์ อาจไปกระทบเรื่องความมั่นคงได้ 3.ความเสียหายต่อผู้เสียชีวิต เพราะมันคือภาพที่เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือบุ้ง เกรงว่าหากตนได้ไฟล์ภาพออกไป จะมีการเผยแพร่ภาพเกิดขึ้นกับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าทั้ง 3 เหตุผลดังกล่าวนี้ ยังไม่มีเหตุสมควรให้รับฟังได้ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งว่า หากมีความประสงค์จะเอาไฟล์ภาพจริง ๆ ตนจะต้องไปร้องต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง แต่ในส่วนนี้ตนยังไม่ขอให้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร ขอไปประชุมก่อน และจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวอีกครั้ง เพื่อสรุปการเสียชีวิตของบุ้ง ตามข้อมูลที่มีในมือทั้งหมดแก่สาธารณะในสัปดาห์หน้า

ทนายกฤษฎางค์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่กรมราชทัณฑ์กังวลเรื่องความมั่นคงนั้น ตนมองย้อนว่าในกรณีที่กรมฯ พาสื่อมวลชนเข้าไปบริเวณอาณาเขตภายในโดยไม่แจ้งให้ทนายความและญาติผู้เสียชีวิตรับทราบก่อน พาไปสำรวจห้องทั้งหมด แม้ไม่ให้บันทึกภาพใด ๆ แบบนี้ไม่เป็นการในลักษณะกระทบต่อความมั่นคงบ้างหรือ อีกทั้งในเรื่องของการมากังวลว่าตนจะเผยแพร่ภาพการเสียชีวิตของบุ้ง ตนขอเน้นย้ำเลยว่าเราไม่มีแม้แต่จะคิดทำ แม้กระทั่งเอกสารจำนวน 26 แผ่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มอบให้มา ตนก็ไม่เคยส่งให้ผู้สื่อข่าวสำนักไหนได้ดู ไม่เคยมีการเปิดเผย มีแต่จะนำไปวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง บุ้งเสียชีวิตเพราะสาเหตุอะไร ตนเเค่อยากเอามาดูประกอบว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่

“ขอย้ำชัดอีกครั้งว่า เราไม่ได้ต้องการดำเนินคดีกับใครทั้งนั้น พูดเสมอว่าแพทย์ราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นผู้ที่อยู่ในระบบและปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งบุ้งก็เสียชีวิตไปแล้ว สิ่งสำคัญ คือ การเสียชีวิตของบุ้งจะต้องนำมาซึ่งการปฏิรูปทุกองคาพยพ ทั้งศาลยุติธรรม ตำรวจ อัยการ และกรมราชทัณฑ์ รวมถึงบทบาทการดูแลของกรมราชทัณฑ์ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด หรือผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ก็ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นไปตามกฎหมาย เพราะมันคือการเอาคนมาขังไว้ในคุก” ทนายกฤษฎางค์ ระบุ

ทนายกฤษฎางค์ ระบุด้วยว่า ตนได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ว่า ได้มีการทำหนังสือลงวันที่ 22 พ.ค. 67 เชิญบิดามารดาของบุ้งเข้ามารับชมไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์วันที่ 14 พ.ค. 67 แต่ตนได้สอบถามไปแล้ว ทราบว่าทั้งคู่ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว ซึ่งในเอกสารสำเนาที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้ตนดูนั้น ก็ไม่ได้มีการระบุวันเวลาว่าจะให้พ่อแม่ของบุ้งเข้ามาในวันใด เพียงแต่ว่าหากสะดวกตอนไหนก็เข้าไปได้เลย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนจะไปปรึกษาหารือกับทั้งคู่ก่อนว่าจะเข้าไปดูภาพกล้องวงจรปิดหรือไม่ และจะเข้าวันใด เพราะอย่างไรตนก็ไม่ได้ไฟล์ภาพมาอยู่แล้ว และมันก็แก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ จึงอยากสอบถามไปยังรัฐบาลและผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมว่า แน่ใจใช่หรือไม่ที่จะปฏิเสธโอกาสการชี้แจงต่อสาธารณะ ทั้งๆ ที่ไฟล์ภาพวงจรปิดจะเป็นตัวช่วยยืนยันว่าพวกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักการรักษาพยาบาล และมีความบริสุทธิ์ใจ และตนไม่อยากจะบอกว่ายังเชื่อมั่นในรัฐบาลอยู่หรือไม่ แต่ขอให้รับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ไม่อยากให้เป็นเพียงการสร้างวาทกรรม

ทนายกฤษฎางค์ ระบุต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องเอกสารการกู้ชีพที่ตนได้รับมาจาก รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ค่อนข้างมีความสมบูรณ์แล้วว่าบุ้งเสียชีวิตตั้งแต่ที่ไหน และเพราะอะไร แต่เพื่อความเป็นธรรม เราก็อยากรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย แต่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์กลับปิดโอกาสตรงนี้ของตัวเอง เพราะสังคมเขาอยากรู้สาเหตุการตายของบุ้ง อีกทั้งถ้าหากมีความบกพร่องในการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี หรือผู้ต้องขังเด็ดขาดในอนาคต เราจะได้เกิดการแก้ไข ไม่มีใครต้องตายในระบอบนี้อีก

เมื่อถามว่าการกระทำลักษณะนี้ของกรมราชทัณฑ์ถือว่าเป็นการปิดบังหรือไม่นั้น ทนายกฤษฎางค์ ระบุว่า ขอให้สื่อมวลชนไปตัดสินเอาเอง เเต่ตนมีคำตอบให้ตัวเองแล้ว ซึ่งมันก็เป็นผลเสียต่อข้าราชการเอง อีกทั้งตนได้รับทราบมาว่ามีคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูง ไม่ให้มีการเปิดเผยให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิด ส่วนจะปกปิดหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะเมื่อวันจัดงานศพของบุ้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ยืนยันกับตนเองว่าสามารถขอไฟล์ภาพได้ ไม่มีเรื่องปิดบังอยู่แล้ว อีกทั้งนายกรัฐมนตรี ก็สั่งให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่ามีกลุ่มคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่พวกเราพูด แต่จะมาซุกไว้ใต้พรมแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ต้องกวาดบ้านให้สะอาด หากวันหนึ่งเป็นญาติพี่น้องของพวกคุณขึ้นมาก็เป็นไปได้ และตนกล้าพูดเลยว่า บุ้งมีอาการสาหัสกว่านักการเมืองใหญ่ หรือเศรษฐีที่ไปนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำฯ คนเหล่านี้มีอาการเบากว่าบุ้งเยอะ เรียกได้ว่าสิ่งที่กรมราชทัณฑ์ทำอยู่นั้น เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือโง่เขลา เพราะตนย้ำหลายครั้งแล้วว่าการเสียชีวิตของบุ้ง พวกคุณ (กรมราชทัณฑ์) ไม่ต้องมารับผิดชอบ เพราะว่าสาเหตุที่บุ้งไปอยู่ในนั้น มันเกิดจากการที่บุ้งไม่ได้รับการประกันตัว มันเป็นเรื่องของศาล และวานนี้ (23 พ.ค.) ก็ได้มีการยื่นขอประกันตะวันอีกครั้ง แต่ศาลก็ไม่ให้ประกัน โดยอ้างว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ทนายกฤษฎางค์ กล่าวถึงบันทึกการกู้ชีพที่ได้มาจาก รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ว่า ตามหลักฐานเบื้องต้น พบว่าบุ้งไม่มีสัญญาณชีพมาตั้งแต่ออกจาก รพ.ราชทัณฑ์ เพราะตอนไปถึงก็มีค่าเป็นศูนย์แล้ว จึงอยากได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่จะยืนยันว่าเสียชีวิตก่อนไปถึง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เพราะถ้าบุ้งเสียชีวิตที่ รพ.ราชทัณฑ์ ก็จะต้องไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เพื่อเข้าสู่กระบวนตามกฎหมาย และตอนนี้ในส่วนของเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ตนเหลือผลการชันสูตรพลิกศพทั้งหมดจาก รพ.ธรรมศาสตร์ฯ รวมถึงค่าตับ ค่าไต และสารพิษตกค้างต่าง ๆ ที่อาจมีภายในร่างกายจาก รพ.รามาธิบดี ไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดของ รพ.ราชทัณฑ์ เอกสารผลการเอกซเรย์ปอด และการสแกนสมอง (CT SCAN) ทั้งนี้ ตนอยากแจ้งว่าแม่ของบุ้งยังเสียใจมาก ๆ ยังคงทำใจไม่ได้ที่ลูกสาวของเขาเสียชีวิต.