เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 64 ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ เป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ส่วนตัวเห็นว่านายพีระพันธุ์เป็นนักการเมืองอาวุโสจากพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยคือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งในพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีการหารือกัน และที่สำคัญยังไม่เคยเจอนายพีระพันธุ์ ที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกพรรค เปรียบเสมือนพระบวชใหม่ เวลานั่งต้องเรียงตามลำดับพรรษาถึงจะถูกต้อง ตนเคยเล่นหมากรุก เวลาจะออกตัวเดินเบี้ย เดินขุน ตนต้องดูตาม้าตาเรือด้วย เชื่อว่านายพีระพันธุ์ คงรู้จักหมากรุกดีพอ

เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐ ยังมีแค่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียวใช่หรือไม่ เนื่องจากนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จับตา พปชร. เสนอชื่อนายกฯ 3 คน โดยหนึ่งในนั้นมีนายพีระพันธุ์ ด้วย นายสิระ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ต้องใช้ความคิดเห็นคนทั้งพรรค ซึ่งการออกมาแสดงความเห็นของนายไพศาล ที่ไม่ใช่คนในพรรค ไม่ใช่สมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ตนถือว่าเราคุยกันในสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งยังไม่ถึงเวลาเหลืออีกปีกว่าถึงจะมีการเลือกตั้ง ไม่มีการยุบสภา

“ขอให้นายไพศาล ไปดูว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์ ถึงไม่ส่งชื่อนายพีระพันธุ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่แล้ว หากมีความรู้ความสามารถ อย่างที่นายไพศาลพูด” นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่า ภายในพลังประชารัฐ มีกระแสการต่อต้านนายพีระพันธุ์หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ยังไม่ได้เจอกันเลย เพราะยังไม่มีการประชุมพรรค จึงยังไม่รู้ว่าใครต่อต้านหรือใครสนับสนุน แต่เท่าที่รู้นายพีระพันธุ์เพิ่งจ่ายเงินค่าสมาชิกรายปีและตลอดชีพ 1,000 บาท และ 100 บาทเท่านั้น ไม่มีอะไรเหนือกว่านี้ ตนก็จ่าย 1,000 บาท เข้ามาเป็นสมาชิกเมื่อปี 2562 ตนถือว่าตนอยู่พรรค 3 ปีแล้ว นายพีระพันธุ์เพิ่งเข้ามาสัปดาห์เดียว ถึงได้บอกว่าต้องดูพรรษาด้วย

เมื่อถามว่า ดูเหมือนไม่พอใจเพราะกังวลว่าจะมาแย่งโควตารัฐมนตรี รวมถึงมีอำนาจในพรรค ทั้งที่เป็นคนนอก นายสิระ กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ยังไม่ได้คุยกับสมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค แต่ไปให้สัมภาษณ์สื่อจะทำนู่นทำนี่ในพรรคพลังประชารัฐ ท่านเป็นนักการเมืองอาวุโส ตนเป็น ส.ส.สมัยแรก สังคมคงเข้าใจได้ ตนไม่เคยเอาเรื่องในพรรค หรือตัวเองใหญ่ในพรรค จะปรับปรุงอะไรในพรรคเลย ต้องผ่านกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคก่อน

เมื่อถามถึง ผลสำรวจนิด้าโพลที่ออกมาว่าอยากให้ยุบสภาโดยเร็ว นายสิระ กล่าวว่า บ้านเมืองมีปัญหาเช่นนี้ ทั้งน้ำท่วมและโควิด-19 หากยุบสภาแล้วรัฐบาลรักษาการจะทำอะไรได้ มีอำนาจเต็มหรือไม่ ไม่ว่าเรื่องอนุมัติงบประมาณต่างๆ โพลทำที่ไหน นอกจากนี้สภาไม่ได้มีอะไรผิดเลย ไม่มีเรื่องมัวหมอง ผิดพลาด หรือทุจริต จะยุบสภาทำไม

“ผมจะทำโพลให้ดูว่าวันนี้อยากให้รัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่ออีก 10 ปี อย่าไปเชื่อโพลมาก ครั้งที่แล้วผมสมัคร ส.ส. ไม่ติดอันดับในโพล แต่ทำไมผมถึงชนะ” นายสิระ กล่าว.