เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพร้อมทีม ส.จ., ส.ท.พรรคชาติพัฒนา ผู้นำท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนชาวโคราช ร่วมกันทำพิธีสักการะบูชาพระพุทธรูปปางไสยาสน์ (พระนอนหินทราย อายุกว่า 1,300 ปี) พร้อมถวายสังฆทานพระภิกษุสงฆ์วัดธรรมจักรเสมาราม ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลังจากนั้นมอบถุงน้ำใจให้ผู้ประสบอุทกภัย ต.เสมา ต.บุ่งขี้เหล็ก ต.โคราช ต.กุดจิก ต.โนนค่า ต.สูงเนิน ต.นากลาง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

นายสุวัจน์ เปิดเผยว่าลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องประชาชนชาวสูงเนินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม 7-8 หมู่บ้าน 1,600 ครอบครัวสาเหตุจากพายุ “คมปาซุ” ถล่มไทยส่งผลให้น้ำลำน้ำบริบูรณ์ ลำตะคลองมีปริมาณมากเออล้นท่วมบ้านเรือนบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะที่ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน มีความสำคัญเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จุดกำเนิดเมืองโคราช และเป็นที่ประดิษฐานพระนอน อายุกว่า 1,300 ปี สร้างในสมัยทวารวดี พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศให้ความเคารพนับถือสูงสุด

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่าเมื่อตนทราบข่าวองค์พระนอนน้ำท่วม ได้ประสาน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน, นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, นายสมบัติ กาญจนวัฒนา อดีตประธานสภา อบจ.นครราชสีมา, นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา อดีตกำนันโคกกรวด เข้าพื้นที่กู้ภัยน้ำท่วมองค์พระด้วยการสร้างเขื่อนกั้นน้ำชั่วคราว ขนทราย 6 รถพ่วง ได้รับการสนับสนุนชาวบ้านและกำลังทหาร โชคดีองค์พระปลอดภัย แสดงให้เห็นถึงความรักความสามัคคีเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหา

นายสุวัจน์ เปิดเผยว่าวันนี้ได้สอบถามความเสียหายจากเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ในตัวองค์พระ ไม่มีความเสียหาย แต่บริเวณโดยรอบบางส่วนต้องเปลี่ยนอิฐใหม่ และได้หารือกับกรมศิลปากรเกี่ยวกับการวางแผนป้องกันน้ำท่วมแบบยั่งยืน เพราะเมื่อปี 2554 น้ำท่วมครั้งแรก จากนั้นปี 2564 ท่วมครั้งที่ 2 จะต้องสร้างเขื่อนคอนกรีต ติดตั้งระบบสูบน้ำถาวรหรือไม่อย่างไร เป็นแนวทางที่จะร่วมมือทำงานรักษาโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นประตูอารยธรรมเก่าแก่ของอีสาน

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่าตนตั้งใจมากราบพระนอนและขอพรท่านให้คุ้มครองพี่น้องประชาชนชาวสูงเนินและชาวโคราชให้รอดพ้นจากภัยน้ำท่วมและโควิด-19 เราต้องร่วมแรง ร่วมใจกู้ภัย กู้วิกฤติ กู้เศรษฐกิจ

“ผมได้เห็นภาพถ่ายเก่าๆ ตอนนั้นปี 2533 ผมอายุ 33 ปี ลงสมัคร ส.ส.สมัยแรก ได้เบอร์ 16 ไม่คิดว่าจะได้ก็มากราบพระนอน ขอพรท่านถ้าผมได้เป็น ส.ส.โคราช จะรับใช้คนโคราชตลอดไป และผมก็ได้เป็น ส.ส.มาตลอด ผมเคารพว่าท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของคนโคราช ตอนนั้นองค์พระท่านตั้งอยู่กลางแจ้ง ตากแดด ตากฝน ผมได้เรียนท่านชาติชาย (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) จะสร้างอาคารหลังนี้ ท่านเห็นชอบและให้กรมศิลปากรออกแบบและท่านชาติชาย มาวางศิลากฤษ์ เมื่อปี 2535 ตั้งแต่นั้นมาผมเคารพศรัทธาท่านตลอดมีโอกาสจะมากราบไหว้ทำบุญกับที่วัดธรรมจักรเสมารามเป็นประจำ” นายสุวัจน์กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับนายสุวัจน์ มอบเงิน 50,000 บาท ให้ทางวัดธรรมจักรเสมา สำหรับเป็นกองทุนดูแลพระนอนในกรณีฉุกเฉินด้วย.