สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่า กองทัพอวกาศของสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า รัสเซียทำการทดสอบขีปนาวุธลูกหนึ่งกับเป้าหมายที่เป็นดาวเทียมดวงหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลมอสโกไม่ได้ใช้การแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบดังกล่าวก่อให้เกิด “ขยะอวกาศ” อย่างน้อย 1,500 ชิ้น “ที่ยังสามารถมองเห็นได้ผ่านจอเรดาร์และกล้องโทรทรรศน์” และยังมี “ชิ้นส่วนขนาดเล็กอีกนับไม่ถ้วน” ซึ่งยังไม่สามารถติดตามได้ และสร้างความกังวลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ว่าอาจเป็นอันตรายต่อดาวเทียมที่โคจรอยู่ในบริเวณนั้น และที่สำคัญคือ สถานีอวกาศนานาชาติ ( ไอเอสเอส )


ด้านองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ( นาซา ) รายงานว่า ลูกเรือ 7 คนบนไอเอสเอส แบ่งเป็นชาวอเมริกัน 4 คน ชาวรัสเซีย 2 คน และชาวเยอรมันอีกคนหนึ่ง ต้องหลบภัยและเตรียมการอพยพตามขั้นตอน พร้อมทั้งเตือนว่า รัสเซีย “กำลังทำในสิ่งที่เป็นอันตราย” ต่อกิจกรรมอวกาศ

อนึ่ง จีนเคยทดสอบอาวุธลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อปี 2550 ส่งผลให้เกิดเศษซากกระจายเป็นวงกว้างจนนับชิ้นไม่ถ้วนเช่นกัน และหนึ่งในชิ้นส่วนขนาดใหญ่โคจรเข้ามาใกล้กับไอเอสเอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลูกเรือช่วยกันเคลื่อนย้ายสถานี ให้พ้นจากเส้นทางอันตรายได้ทันเวลา


นอกจากนี้ สหรัฐและอินเดียเคยทำสอบขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียมแบบนี้ด้วย เมื่อปี 2551 และ 2562 แต่ทั้งสองประเทศดำเนินการในระดับความสูงที่ต่ำกว่าไอเอสเอสมาก


อย่างไรก็ตาม องค์การอวกาศรัสเซีย ( รอสคอสมอส ) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการทดสอบอาวุธของตัวเองในครั้งนี้ ว่าวงโคจรของชิ้นส่วนได้เคลื่อนตัวออกห่างจากรัศมีการโคจรของไอสเอสเอสแล้ว แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ลูกเรือต้องดำเนินการตามขั้นตอนของการเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ตอนนี้ถือว่า ไอเอสเอส “อยู่ในสถานะปลอดภัย”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES