สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโฮนีอารา หมู่เกาะโซโลมอน เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ว่านายกรัฐมนตรีมานัสเซห์ โซกาวาเร ผู้นำโซโลมอน กล่าวถึงสถานการณ์ประท้วงและการจลาจล ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างเมื่อกลางสัปดาห์นี้ ว่าเป็นผลจาก “การแทรกแซงของกองกำลังจากภายนอก” ต่อการที่รัฐบาลประกาศเมื่อปี 2562 ยุติความร่วมมือกับรัฐบาลไทเป เพื่อไปสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับจีน

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติของออสเตรเลีย เตรียมเดินทางจากกรุงแคนเบอร์รา ไปยังหมู่เกาะโซโลมอน


อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นมองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความวุ่นวายครั้งนี้เท่านั้น เนื่องจากประชาชนมีความไม่พอใจมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อการที่บริษัทของต่างชาติซึ่งเข้ามาประกอบกิจการในโซโลมอน ไม่ได้ให้ความสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเพียงพอ โดยย่านไชนาทาวน์ หรือชุมชนชาวจีน ในกรุงโฮนีอารา ตกเป็นเป้าหมายของการปล้นสะดมมากที่สุด


ขณะที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง “ชุดแรก” ของออสเตรเลีย เดินทางถึงโซโลมอนแล้ว เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงท้องถิ่น ในการรักษาความปลอดภัยที่ท่าอากาศยานนาชาติ และสถานที่ทำการของรัฐบาล โดยภารกิจของออสเตรเลียเป็นไปตามคำขอร้องโดยตรงจากรัฐบาลโซโลมอน “ซึ่งมีความไว้วางใจและเชื่อมั่น” ต่อรัฐบาลแคนเบอร์รา ภายใต้ข้อตกลงความมั่นคงระดับทวิภาคี ฉบับปี 2560


ทว่ามีการวิเคราะห์เช่นกัน ว่าการที่ออสเตรเลียดำเนินการอย่างรวดเร็วนั้น เป็นเพราะต้องการ “สกัดกั้น” การดำเนินการของรัฐบาลปักกิ่ง ไม่ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาในโซโลมอน ที่ในทางภูมิศาสตร์การเมืองถือได้ว่า “เป็นเขตอิทธิพล” ของรัฐบาลแคนเบอร์รา.

เครดิตภาพ : AP