เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง เครือข่ายภาคประชาชน และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยปรากฏข้อมูลบนป้ายก่อสร้างโดย อบจ.ตรัง เชื่อมต่อกันระหว่างสายทุ่งชน-คลองลำชาญ หมู่ 5 บ้านหนองเตย ต.ย่านตาขาว และ ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ขนาดความกว้าง 6 เมตร ระยะทางรวม 370 เมตร ปีงบประมาณ 2562 ค่าก่อสร้าง 2,100,000 บาท จ่ายจากเงินสะสม โดยมี หจก.จรูญศักดิ์ก่อสร้าง 2016 และมี น.ส.เรวดี รองเดช เป็นผู้ควบคุม ระยะเวลาสิ้นสุดการรับประกัน เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อสร้างในสมัย นายกิจ หลีกภัย ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง ในสมัยนั้น

จากการตรวจสอบตลอดสองฟากฝั่งถนนระยะทาง 370 เมตร เป็นสวนปาล์มน้ำมัน อายุประมาณ 3-4 ปี โดยที่ไม่ปรากฏว่ามีบ้านเรือนประชาชนอยู่แม้แต่หลังเดียว ที่สุดทางได้ถูกปิดกั้นด้วยแผงเหล็ก พร้อมติดตั้งป้ายหยุดไว้ แต่ปลายทางสิ้นสุดถนนกลับพุ่งลงไปในคลองลำชาญ โดยที่ไม่สามารถเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใดได้ ทั้งที่มีป้ายบอกทางระบุไว้ชัดเจนว่า เป็นเส้นทางที่จะมุ่งไปยังบ้านพรุยนต์-บ้านหนักแบก ในพื้นที่ ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จนสร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านจำนวนมาก

ด้านนายยุทธนา กล่าวว่า ประชาชนให้ข้อมูลมาและเกิดการเคลือบแคลงสงสัย และเกิดการไม่ไว้วางใจในการจัดทำงบประมาณของหน่วยงานของรัฐ ว่าทำไมถึงมีการจัดทำถนนขึ้นมา แต่ปรากฏว่าไม่สามารถออกสู่ทางสาธารณะอื่นได้ ซึ่งจากการสังเกตเบื้องต้น ถนนเส้นนี้ได้ผ่านมาทางสวนปาล์มน้ำมันแล้วมาจรดที่ลำคลอง ซึ่งยังไม่ปรากฏเรื่องของการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ แต่มีข้อสังเกตว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการจัดทำงบประมาณลงมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าของที่ดินอย่างไรบ้าง หรือมีนักการเมืองเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียในที่ดินดังกล่าวหรือไม่อย่างไร

นายยุทธนา กล่าวต่อว่า ซึ่งจากการดูทางกายภาพไม่ปรากฏว่ามีบ้านเรือน หรือที่อยู่อาศัยของใคร หรือประชาชนที่จะสัญจรได้แม้แต่อย่างใด โดยเป็นสวนปาล์มน้ำมันของเอกชน โดยจะต้องประสานไปยังสำนักงาน สตง. จ.ตรัง ด้วยอีกทางหนึ่ง ว่าในการก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปตามวินัยการเงินการคลังหรือไม่ ประโยชน์ ประหยัด คุ้มค่า ในการใช้งบประมาณหรือไม่ ส่วนทาง ป.ป.ช.เอง ก็จะประสานสำนักงานที่ดินว่าพื้นที่ดังกล่าวใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่

ขณะที่นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จากการเก็บรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ จ.ตรัง มีสิ่งก่อสร้างของภาครัฐ ที่สร้างแล้วใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก หากประเมินเป็นมูลค่าก็หลายพันล้านอยู่ ซึ่งสร้างมาจากงบประมาณหรือภาษีอากรของพี่น้องประชาชน ที่นำมาใช้แต่ใช้ไม่คุ้มค่าและไม่ตอบสนองต่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเลย เช่นตัวอย่างถนนเส้นนี้ เมื่อปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนว่ามีการก่อสร้างถนนไปในนา จ.ยโสธร ก็ทำให้ชาวบ้านส่งข้อมูลมาให้ เมื่อมาดูถนนไม่มีบ้านเรือน ไม่มีทางเชื่อมโยง หากผู้ว่าผู้ที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันซึ่งมีไม่กี่ราย แต่ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน ถ้าคิดแล้วประโยชน์ไม่คุ้มค่า

อย่างไรก็ตามทาง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จ.ตรัง ได้ติดต่อไปยังสำนักงานที่ดิน จ.ตรัง สาขาย่านตาขาว เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ดินดังกล่าว ปรากฏเอกสารว่าถูกแบ่งเป็น 3 แปลง ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด โดยมี นางจันทร์ฉาย (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองอยู่.