เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) สรุปภาพรวมสถานการณ์โควิดประเทศไทยพบติดเชื้อรายใหม่ 3,525 ราย, ผู้ป่วยสะสม 2,148,766 ราย, รักษาหายวันนี้ 6,109 ราย, อยู่ระหว่างการรักษา 66,395 ราย, อาการหนัก 1,253 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 328 ราย, ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 31 ราย, เสียชีวิตสะสม 20,997 ราย ส่วนผลการฉีดวัคซีนสะสม 95,616,058 โด๊ส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 49,308,940 ราย คิดเป็น 68.5%, เข็ม 2 จำนวน 42,527,505 ราย คิดเป็น 59% และเข็ม 3 จำนวน 3,779,613 ราย คิดเป็น 5.2%

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีอัตราการติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดคือ กทม. 810 ราย, นครศรีธรรมราช 271 ราย, ชลบุรี 162 ราย, สงขลา 159 ราย, สุราษฎร์ธานี 153 ราย, ปัตตานี 110 ราย, เชียงใหม่ 95 ราย, นครสวรรค์ 95 ราย, สมุทรปราการ 93 ราย และตรัง 80 ราย ส่วนรายงานผลชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยผ่านระบบ test & go ระบบ sandbox และระบบ Quarantine ล่าสุดวันที่ 6 ธ.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 6,175 ราย พบติดเชื้อ 10 ราย ส่วนยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-6 ธ.ค. 2564 ชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยมาทั้งสิ้น 133,061 ราย ติดเชื้อ 171 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.13%

ทั้งนี้ ศบค.ยังได้รายงานการพบโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ล่าสุดพบแล้วใน 54 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยในสหรัฐอเมริกา ดร.โรเชล วาเลนสกี ผอ.ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐ พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนแล้วอย่างน้อย 16 รัฐ หรือคิดเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ อยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนครบโด๊สแล้วและมีอาการเพียงเล็กน้อย ขณะที่ประเทศอังกฤษ โดยสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) ระบุว่าอังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่ม 86 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 160 ราย หรือคิดเป็นอัตราการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนวันเดียว 50%.