ความคืบหน้ากรณี น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ “พิมรี่พาย” หุ้นส่วนอิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง เข้าแจ้งความตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า คลินิกของตนถูกมิจฉาชีพใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านอื่น มาสมัครเป็นแพทย์ผู้ให้บริการของคลินิก ต่อมาวันที่ 17 ธ.ค. พิมรี่พาย ประกาศรางวัลแจ้งเบาะแสหาตัวผู้กระทำความผิดสูงถึง 100,000 บาท พร้อมระบุว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกจะปิดคลินิกทันทีนั้น

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่าหลังจากเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ อิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง เบื้องต้นได้สั่งปิดสาขาดังกล่าว เป็นเวลา 30 วัน พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าของสถานพยาบาลตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาลต่อไป

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี สบส. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างออกคำสั่งในการสั่งปิดอิสคิวท์คลินิกเวชกรรมชั่วคราว 30 วัน เนื่องจากตามแนวทางหากพบสถานพยาบาลมีผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือหมอเถื่อนเข้ามาทำงาน ถือว่าไม่ปลอดภัยต่อผู้รับบริการ ต้องสั่งปิดชั่วคราว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้เกิดการปรับปรุงและระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลคือแพทย์ในคลินิกที่มีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งมีหน้าที่จัดหาผู้ให้บริการที่ถูกต้อง แต่กลับมีหมอเถื่อนในคลินิก ในเบื้องต้นมีโทษจากการไม่จัดผู้ให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐาน ผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้เจ้าพนักงานต้องสอบส่วนว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ส่วนเจ้าของคลินิก ยังไม่พบความผิด แต่การสั่งปิดสถานบริการเป็นการลงโทษเจ้าของตามโทษการปกครองแล้ว

นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังพบความผิดในด้านอื่นๆ เช่น คลินิกมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยโดยไม่ได้รับอนุญาต การโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และการไม่แจ้งรายชื่อของแพทย์ผู้ให้บริการกับผู้อนุญาต ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.