เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รวมทั้งผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ จ.สงขลา วันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จำนวน 212 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 22 ก.พ. รวม 4,970 ราย กำลังรักษาตัว 1,222 ราย รักษาหายกลับบ้าน 189 ราย และเสียชีวิตสะสม 22 ราย

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ดูแลได้ ซึ่งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ในประชาชนทุกกลุ่มนั้น มีความสำคัญที่จะต้องดำเนินอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และสร้างความปลอดภัยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงยังต้องรักษามาตรการ VUCA คือ ฉีดวัคซีนป้องกันตนเองตลอดเวลา ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการ COVID Free Setting และตรวจ ATK อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากภาครัฐและประชาชนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เชื่อว่าโรคโควิด-19 จะลดความรุนแรงลง และเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ทำให้ประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้ และประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

นอกจากนี้จากแนวโน้มการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ในที่ประชุมมีมติให้ จ.สงขลา ประกาศมาตรการเข้มในการคัดกรองสำหรับประชาชนที่จะเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ โดยจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม แล้วเท่านั้น เช่นเดียวกับการจัดกิจกรรมต่างๆ ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องฉีดวัคซีน 3 เข็ม จัดสถานที่แบบเว้นระยะห่าง ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความปลอดภัย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. สำหรับการเตรียมความพร้อมสำหรับการรับนักท่องเที่ยวนั้น โดยภาพรวม จ.สงขลา ได้ร่วมกับภาคเอกชนในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว

รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน หรือ community isolation ตามโครงการ “1 CI 1 ท้องถิ่น” เพื่อรองรับผู้ป่วยให้ทันกับการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งขณะนี้ จ.สงขลา มีศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชนทั้ง 16 อำเภอ รวม 92 แห่ง รองรับได้ 6,844 เตียง โดยเปิดใช้บริการเพียง 22 แห่ง และรองรับได้ประมาณ 3,000 กว่าเตียง