ยังคงเป็นที่แคลงใจของประชาชนในเรื่องคดีดาราสาว “แตงโม นิดา” โดยวันนี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มาตอบข้อสงสัยถึงคดีผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7 เกี่ยวกับเรื่องนี้ และข้อสงสัยต่างๆ อีกด้วย


พล.ต.ต.ยิ่งยศ เผยว่า “จากกรณีที่วานนี้ (14 มี.ค. 65) มีคุณหมอออกมาชี้แจงผลชันสูตร 5-6 ท่าน โดยจากข่าวที่มีการบอกว่า ใช้คุณหมอท่านเดียวในการชันสูตร จริงๆ แล้วใช้คุณหมอทั้งหมด 5 ท่าน ชันสูตรตั้งแต่พบศพทันที และเป็นคุณหมอที่ทรงคุณวุฒิ และการที่ไม่แจ้งความคืบหน้าคดีให้ประชาชนทราบ เพราะเป็นข้อมูลการสืบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ เปิดเผยได้แต่เพียงญาติ หรือผู้เสียหายโดยตรง ข้อมูลเรื่องนี้ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้อยู่แล้วมันผิดกฎหมาย”

“เรื่องการตรวจสารเสพติด พบคนบนเรือครั้งแรก เราก็ขอตรวจเลย ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ต้องให้ผู้ตรวจเขายินยอมด้วย มันเป็นสิทธิของเขา ในกรณีที่เขาไม่ยอม เราไม่ได้ดูแค่นั้น เราดูตามพยานแวดล้อมด้วยว่า เขากระทำความผิดหรือไม่ ทั้งหมดนี้อยู่ในสำนวนหมดแล้ว ประเด็นที่บอกว่าคุณแซนไม่ให้ตรวจ และพ่อมีความสนิทสนมกับ ผบ.ตร. ผมยืนยันเลยว่าไม่เกี่ยวกัน ทาง ผบ.ตร.ยังถามผมเลยว่าพ่อคุณแซนเป็นใคร ทำงานอะไร”

“สำหรับการตรวจสอบเรือ หลังจากพบเรือลำเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบตั้งแต่เช้าวันที่ 25 ก.พ. ที่นำเรือเก็บไว้ที่โรงจอดเรือ เพราะว่าหน่วยงานราชการยังไม่มีที่ที่สามารถเก็บเรือได้ จึงฝากเก็บไว้ มีกล้องวงจรปิดตรวจสอบอย่างดี พอหาหน่วยงานที่เก็บเรือได้ จึงเคลื่อนเรือไปเก็บตามหน่วยงาน การสลับเรือที่มีคนออกมาว่าเลขตรงเรือ สลับจาก 300 เป็น 200 มีการตรวจสอบนำภาพมาดูชอตต่อชอตแล้วว่าเป็นเพียงมุมภาพ และเรื่องโยนขวดไวน์ลงแม่น้ำว่าทำลายหลักฐานหรือเปล่า เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ผมขอไม่พูดถึง นอกจากนี้ ประเด็นคลิปที่มีคนไปนั่งท้ายเรือ แล้วหล่นหายไป ต้องเรียนว่าผมคงตอบไม่ได้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า เพราะเรามีคลิปทั้งหมด 200 กว่าคลิป เราไม่ได้นำคลิปอันเดียวมาสรุปเลย ต้องดูบริบทและสอดคล้องกับพยานแวดล้อม ห้วงเวลา พิกัด GPS อันไหนที่มันสอดคล้อง เรานำเข้าสำนวนหมดอยู่แล้วครับ”

“อีกหนึ่งประเด็นที่เป็นคลิปคนจิกหัวกันบริเวณหัวเรือ ประเด็นนี้มีนักข่าวออกมายืนยันแล้วว่า เป็นคนถ่ายเอาไว้ช่วงเวลาหลังจากเกิดเหตุ สุดท้ายถ้าใครอยากแจ้งหลักฐาน ข้อมูลที่เป็นจริง เรียนเชิญให้มาเป็นพยานเลย แต่ถ้าเป็นหลักฐานเท็จก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และทำให้สังคมเสียหาย”

ขณะที่ เดชา กิตติวิทยานันท์ หัวหน้าทีมทนายความแม่แตงโม (โฟนอิน) เข้ามาเปิดเผยว่า “จากประเด็นที่ทนายกฤษณะบอกว่าเชื่อแค่ 50% เขาไปพูดอะไรที่มันกำกวมเอง ไม่มีการปรึกษากันก่อน ผมเองได้โทรฯ ไปตำหนิแล้วครับ ทำแบบนี้คนร้ายก็รู้ตัวหมดพอดี สำหรับผลชันสูตร จากที่ฟังผลมาถือว่าเคลียร์ ในเรื่องที่ฟันหัก ฟันยังอยู่ครบ ไม่มีการหักหรือบิ่นเลย แผลช้ำบริเวณหน้าอกเอง คุณหมอก็ได้เปิดเผยภาพให้ดู มันก็ไม่มีเลยครับ เรื่องแผลที่ขาโซเชียลบอกว่าเห็นถึงกระดูก ก็ไม่เป็นความจริงเลย เป็นความเท็จทั้งสิ้น”

“ประเด็นที่ก่อนหน้านี้ผมออกตัวแรง แต่พอฟังผลแล้วกลับคำ เพราะเราต้องอยู่กับความจริง เราเห็นอะไรก็พูดอย่างนั้น เราต้องไปว่าความในศาลยุติธรรม ไม่ใช่ศาลโซเชียล ใครจะทัวร์ลงอะไรผมไม่สนใจ ว่ากันไปตามความจริง ตอนนี้จากพยานหลักฐานเป็นได้แค่ประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่อนาคตถ้าเขาพบหลักฐานเพิ่ม บ่งชี้ถึงเจตนาฆ่า ก็แจ้งข้อหาเพิ่มตามเจตนา หากชันสูตรรอบสองออกมาแล้วตรงกับรอบแรก ก็ต้องยอมรับ เราต้องอยู่กับความจริง เรื่องหลักฐานชิ้นใหญ่ที่ทนายกฤษณะออกมาบอกว่าจะเปิดเผย ผมได้โทรฯ ไปตำหนิเขาแล้ว เพราะข้อมูลสำคัญเราจะไปเปิดเผยมั่วๆ โจรผู้ร้ายก็หนีหมดสิ สำหรับหลักฐานชิ้นนี้ ก็มีโอกาสจะพลิกคดีได้ สุดท้ายก็ฝากให้ตำรวจตั้งใจทำงาน”