เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย บุตรสาวเดินเกมการเมือง เพื่อหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอีกคนของตระกูลชินวัตร เราไม่ต้องไปวิตกกังวลมาก เพราะเราเคยรู้เห็น ประสบกันมาแล้วว่าระบอบทักษิณ ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างไร

“ผมไม่คิดว่าทุกอย่าง จะเป็นไปตามแผนการ หรือ ตามความฝันของนายทักษิณ เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไปมากแล้ว ความคิดเห็นของคนก็เปลี่ยนไปแล้ว นายทักษิณ ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในการทำตลาดทางการเมือง เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการสื่อสารของโลกยุคใหม่ แต่วันนี้คนอื่นๆ ฝ่ายอื่นๆ ก็รู้เท่าทันความก้าวหน้าทางด้านการสื่อสารในโลกยุคใหม่ ประชาชนทุกฝ่ายได้รับข้อมูลข่าวสารพร้อมๆ กันเร็วเท่ากัน มีการวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความรู้กัน เพราะฉะนั้นทุกคนก็รู้ข้อเท็จจริงมากพอๆ กัน หลอกไม่ง่ายเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อนที่นายทักษิณเคยทำ ผมไม่รู้สึกกังวลใจ” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ ระบุว่า ที่ถามมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังมีความเหมาะสมในการเป็นผู้นำประเทศที่นำไปสู่ความสงบเรียบร้อยอยู่หรือไม่ ก็จะบอกว่า ตนเชียร์ นายกฯ มาโดยตลอด เพราะได้พิจารณาเห็นว่า ท่านมีความปรารถนาดี มีความตั้งใจดี ที่จะทำงานให้กับประเทศชาติ และประชาชน เป็นคนสุจริต มีความมุ่งมั่น ยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่เป็นข้อบกพร่อง ไม่มีอะไรที่ก่อเกิดความเสียหายจากการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเห็นว่าท่านยังเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม ที่จะเป็นผู้นำประเทศ ในยุคในสมัยนี้ในช่วงนี้

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนคำถามว่าการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. มีความสำคัญต่อต่างจังหวัดอย่างไร จะบอกว่าตอบไม่ได้จริงๆ ตนไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะสะท้อนอะไรไปถึงชาวต่างจังหวัดบ้าง แต่มองว่าทุกการเลือกตั้ง มันเป็นเครื่องวัดความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองและนักการเมือง เท่าที่ติดตามวันนี้มีผู้สมัครลงในนามพรรคการเมืองและแบบอิสระ ส่วนอิสระ มีทั้งแบบจริงๆ บ้าง และแบบที่มีพรรคการเมืองคอยบงการอยู่ แต่คงไม่รอดจากหูตาประชาชน เพราะพี่น้องชาว กทม.ไวต่อข่าวสาร และสถานการณ์มาก และหลังจากที่มีการเลือกผู้ว่าฯ กทม.ในเดือน พ.ค. แล้วนับไปอีก 9-10 เดือน ก็น่าจะมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ ตรงนี้จะเป็นการตัดสินอนาคตของประเทศครั้งสำคัญ.