เมื่อวันที่ 1 ก.ค. จากกรณี น.ส.น้ำ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาว อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เข้าแจ้งความที่ สภ.พิมาย ว่าถูกนายมะยม อายุ 27 ปี สามีตัวเอง ชาว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ขโมยสร้อยคอทองหนัก 1 บาท แล้วหนีไป จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายมะยมเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง 

นายมะยม เล่าว่า ตนแต่งงานกับ น.ส.น้ำ เมื่อเดือน ม.ค.64 สินสอดเป็นเงินสด 50,000 สร้อยทองหนัก 1 บาท หลังแต่งงานได้ 3 เดือนภรรยาก็คลอดลูกชายออกมาจนถึงขณะนี้ลูกอายุได้ 3 เดือน ส่วนตนเองไปทำงานเป็นช่างตัดสติกเกอร์อยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา โดยให้ภรรยาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา อดีตเมียเก่าของตนได้โพสต์ภาพยายของเมียเก่านอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ตนซึ่งเคยอยู่และรักยายของแฟนจึงกดสติกเกอร์ “ห่วงใย” ไปในเฟซบุ๊กของเมียเก่าทำให้ภรรยาไม่พอใจ 

พยายามใส่ร้ายตนเองหลายเรื่อง เช่นไปบอกกับเพื่อนเขาว่าตนไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นประกาศจะเลิก ตนพยายามคุยและง้อเพราะลูกกำลังเล็ก แต่ฝ่ายภรรยาไม่ยอมฟัง สุดท้ายภรรยาโทรศัพท์แจ้งว่าให้มาเอาเสื้อผ้า ถ้าไม่มาเอาจะเผาทิ้ง ตนซึ่งทำงานอยู่ในตัวเมืองจึงรีบไปพบแต่ไม่สามารถเจรจากันได้ แม่ภรรยายังจะเรียกเอาเงินค่าไปอาศัยอยู่กินอีก ตนจึงขึ้นรถกลับบ้านที่บุรีรัมย์กระทั่งมารู้ว่าถูกแจ้งความเอาผิดดังกล่าว

ส่วนเรื่องการแจ้งความตนไม่สนใจพร้อมจะสู้คดีหากตำรวจรับแจ้งเพราะไม่ได้ขโมยทองมา ทองเส้นนี้เป็นทองสินสอดจริง แต่ภรรยาได้เอาให้ตนใส่มาตั้งแต่หลังแต่งงาน ไม่คิดว่าภรรยาจะทำแบบนี้ทั้งที่ตนหาเลี้ยงทั้งครอบครัว.