เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 พ.ค.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงย่านอารีย์บริเวณหลังธนาคารออมสิน และอาคารพาณิชย์ บริเวณแยกสะพานควาย จากนั้นเดินหาเสียงที่ตลาดศรีวานิช ก่อนเดินทางไปหาเสียงต่อที่ตลาดหลังกระทรวงการคลัง

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ตลาดศรีวานิชว่า เขตดินแดง เป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากซึ่งต้องแก้ไขรวมถึงจุดอื่นๆที่ประชาชนแจ้งเข้ามา ขณะเดียวกันบริเวณใต้ทางด่วนใกล้กับตลาด เป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคม โดยเฉพาะจุดลงรถตู้ ที่มีประชาชนจังหวัดใกล้เคียง อาทิ นนทบุรี ปทุมธานี ใช้บริการรถตู้มาลงที่นี่เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางไปยังจุดอื่นๆในกรุงเทพฯ ส่วนนี้ กทม.ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย ทางเดินเท้า ไฟฟ้าส่องสว่าง

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตลาดในช่วงเช้า ปัญหาที่พบยังเป็นเรื่องปากท้อง แม่ค้าสะท้อนปัญหาตลาดค่อยข้างซบเซา ขายของได้น้อยลงกทม.ต้องช่วยในมิติลดค่าใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจ ภาพรวมการเปิดประเทศ รวมถึงสถานการณ์โควิดที่น่าจะบรรเทาขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ระหว่างลงพื้นที่ได้สอบถามแม่ค้าว่ามีปัญหาเรื่องเทศกิจบ้างหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้วตลาดศรีวานิช อยู่ในซอยในอีกมุมหนึ่งคือเป็นตลาดของชุมชน อาจไม่ได้กีดขวางทางเดินคนมากเพราะไม่ใช่เส้นทางสัญจรหลัก และจะเห็นได้ว่าการจัดการตลาดชุมชนในหลายๆครั้ง มาจากการจัดระเบียบในเส้นทางหลักให้เข้ามาอยู่ซอยเล็กๆ คนที่มาคือตั้งใจมาจับจ่ายซื้อสินค้า ตลาดเหล่านี้คือวิถีชีวิตที่ต้องดูให้เหมาะสม

นายชัชชาติ กล่าวว่า อีกประเด็นที่เราเจอบ่อยคือ เราถามแม่ค้า พ่อค้าว่า เจอเทศกิจเก็บเงินบ้างหรือไม่ ซึ่งแม่ค้าบอกว่ามีการจ่ายค่าปรับทุกเดือน เหมือนทำผิดกฎหมายแล้วจ่ายค่าปรับ ทั้งนี้ จากตัวเลขปีที่ผ่านมาพบว่า มีการปรับพ่อค้าแม่ค้าไปแล้ว 100 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งค่าปรับหรือ 50 ล้านบาท เป็นรางวัลนำจับ เราคงต้องทบทวนวิธีปฏิบัตินี้ให้ดีว่าเหมาะสมหรือไม่ การปรับทุกเดือนเหมือนมีใบเสร็จเป็นเหมือนค่าเช่า ต้องทบทวนระบบให้ดีว่าเอื้อต่อการประกอบอาชีพของประชาชน หรือเป็นต้นทุนของประชาชนที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะตามหลักแล้วการปรับคือทำผิด ไม่ควรให้ทำซ้ำ

เมื่อถามว่าโค้งสุดท้าย มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีการตัดคะแนนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคก้าวไกลเพราะมีแนวคิดหรือนโยบายคล้ายๆกัน นายชัชชาติ กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก ทุกคนมีการตัดคะแนนกันหมด ประชาชนเลือกคนที่ไว้ใจ ใครได้คะแนนมากสุดชนะ คือ ระบบประชาธิปไตย แต่ตอนนี้มีการปล่อยข่าวออกมาเยอะมาก ทั้งข่าวที่จะแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งไม่เป็นความจริง หากมีอะไรตนจะเป็นคนพูด หรือแถลงเอง จึงขอให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันในตนเอง พิจารณาข่าวไหนจริงไม่จริง มีเหตุผลหรือไม่ รวมถึงแหล่งที่มา หากไม่รู้อย่าไปส่งต่อการส่งต่อข้อมูลเท็จมีคุณมีโทษแก่ผู้สมัครมีโทษตามกฎหมาย

โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายใน 2 สัปดาห์นี้มีการปล่อยข่าวมากมาย พยายามไปขุดเรื่องขึ้นมา เช่น รูปภาพตนชู 3 นิ้วกับ นายรังสิมันต์ โรมซึ่งเป็นเรื่อง 7 ปีที่แล้ว และสมัยนั้นการชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษญ์ของประชาธิปไตย สัญลักษณ์ของฝรั่งเศส ในเรื่อง เสรีภาพ ความเท่าเทียม และความเป็นพี่น้องกัน ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสถาบันหรือมีการนำรูปที่ตนถ่ายกับ “อั้ม เนโกะ” มาแชร์ เป็นเรื่องเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นั่งรถไฟกับนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ คุณ “อั้ม เนโกะ” ก็มาถ่ายรูปด้วยเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่มีคนมาถ่ายรูปด้วย

แต่มีการพยายามเอามาโยงว่ามีอุดมการณ์ตรงกัน ตนคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระ จริงๆแล้วเราเคารพทุกความเห็น การที่เราไปถ่ายรูปกับใครไม่ได้แปลว่าเรามีความคิดเห็นเหมือนเขา การพยายามส่งรูปพวกนี้มีจุดประสงค์เพื่อเอาประโยชน์ให้กลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เชื่อว่าไม่ใช่ตนคนเดียวที่โดน ผู้สมัครหลายๆคนโดนแบบนี้ เป็นการเมืองที่ไม่สุจริต

“ข่าวปล่อยเหมือนเชื้อโรค อย่าไปเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการแพร่เชื้อโรค อย่าให้ตัวเองเป็นเป็นตัวทำร้ายระบอบประชาธิปไตย กลุ่มไลน์เราเข้าไปแก่ข่าวลำบาก เพราะเข้าไม่ถึง แต่ถ้าเป็นโซเชียลอื่นๆเราไม่ค่อยกังวลพยายามชี้แจงหมด” นายชัชชาติ กล่าว.