เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางของฝ่ายค้านภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 จะมีการดำเนินการอะไรต่อหรือไม่ ว่าหลังจากนี้อยู่ในกระบวนการที่ต้องเอามาปรึกษาหารือกันของที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน เนื่องจากมีหลายข้อที่อภิปรายแล้ว มีหลายเรื่องที่มีลักษณะข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ส่วนประเด็นอื่นๆ ต้องดูในรายละเอียดว่าจะต้องดำเนินการต่ออย่างไร

เช่นเรื่องการปกปิดข้อมูลการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โดยหลักฐานที่ได้มาเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ เมื่อมีการเกิดโรคแล้ว มีมาตรการและวิธีที่จะควบคุมป้องกัน แต่ไม่บอกว่าเป็นโรค ASF และไม่ยอมประกาศเป็นโรคระบาด ซึ่งเป็นประเด็นที่จะเป็นข้อกล่าวหาว่าทางผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นระดับข้าราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรือรัฐมนตรีที่ควบคุมกำกับส่อเจตนาที่จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา 157

“ส่วนการจะยื่นฟ้องหรือไม่ จะมานั่งปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการเลยหรือไม่ หรือจะนำประเด็นไปยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นข้อกล่าวหา เนื่องจากการซักถามข้อเท็จจริงในครั้งนี้ไม่ได้รับคำตอบเลยว่าปกปิดหรือไม่ ทำไมถึงดำเนินการอย่างนั้น ถ้ามีหลักฐานเชิงประจักษ์ครบอาจยื่นได้เลย หรือต้องไปเสาะหาเพิ่มเติมในประเด็นที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ ก็อาจจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตรา 151”

นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่าสำหรับประเด็นอื่นๆ ต้องมาดูในรายละเอียดว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร เช่น นำการอภิปรายของสมาชิกมาขยาย และเผยแพร่ต่อในทุกแพลตฟอร์มให้ประชาชนได้รับทราบว่า เจตนารมณ์ในการอภิปรายครั้งนี้ว่าเป็นการอภิปรายเพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชน และสิ่งที่รัฐบาลควรทำเป็นอย่างไร