เมื่อวันที่ 12 พ.ค. มูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรมอุดธานี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่ามีงูเลื้อยเข้าไปในรถเก๋งที่จอดอยู่ข้างในบ้านเลขที่ 600/1 หมู่ 4 บ้านถ่อน ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นอาสากู้ภัยพร้อมอุปกรณ์จับงูรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว พบรถเก๋งสีขาวยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อัลติส ทะเบียน กม 297 ขอนแก่น จอดอยู่ประตูหน้าบ้านด้านใน โดยมีนาย ศิวกร จันทะพันธ์ อายุ 21 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน พาอาสากู้ภัยไปดูจุดที่งูเลื้อยขึ้นมาจากบริเวณล้อหน้าขวารถ ก่อนที่จะใช้ไฟฉายส่องหาตัวงูและทำการเคาะบริเวณด้านข้างตัวรถ เพื่อจะให้งูเลื้อยออกมา แต่ได้ยินเสียงงูขู่ฟ่อๆ ทำให้ทราบว่าเป็นงูเห่า จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการจับ ก่อนนำยากันยุงฉีดพ่นเข้าไปในช่องด้านบนล้อหน้าด้านขวาที่ห้องเครื่องที่งูเห่าหลบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ออกมา

หลังจากนั้นอาสากู้ภัยได้นำไม้แขวนเสื้อแหย่เข้าไปในช่องจนงูเห่าได้เลื้อยลงมาที่ล้อรถ อาสากู้ภัยจึงได้นำเหล็กคีบทำการหนีบตัวงูเห่าเอาไว้ แต่ก็ชูคอพ่นพิษใส่อาสากู้ภัย 2-3 ครั้ง แต่ก็หลบทัน โดยให้เจ้าของบ้านทำบ่วงเชือกขึ้นมาให้อาสากู้ภัยแล้วก็นำไปทำการคล้องคองูเห่า เพื่อไม่ให้พ่นพิษได้อีก ก่อนที่จะดึงตัวออกมาจากรถ พบเป็นงูเห่าความยาว 1.20 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นได้นำงูเห่าใส่กระสอบถุงปุ๋ย นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

นายศิวกร กล่าวว่า ขณะที่กินข้าวอยู่ในบ้าน ได้มองออกมาดูหน้าบ้านเห็นงูเลื้อยเข้าไปในใต้ท้องรถ จึงได้ตะโกนเรียกแม่ออกมาดู แล้วโทรศัพท์ไปบอกพ่อให้กลับมาที่บ้าน ก่อนโทรฯ แจ้งมูลนิธิฯ มาทำการจับงูออกไป โดยตนมั่นใจว่าเป็นงูเห่า ทำให้ตกใจมากถึงกับขนลุกขึ้นมา แล้วงูเห่าก็ได้เลื้อยขึ้นไปบนรถ ซึ่งรถคันนี้เป็นรถของพ่อได้จอดอยู่ ไม่ได้ใช้ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากพ่อได้ซื้อคันใหม่ ส่วนคนโบราณบอกว่า หากมีงูเข้าบ้านหรือขึ้นรถจะนำโชคลาภมาให้ ซึ่งจะบอกพ่อให้ทำการเสี่ยงโชค ซื้อเลขทะเบียนรถเก๋งเลข 297 ขณะที่เพื่อนบ้านทราบว่ามีงูเลื้อยขึ้นรถ จึงได้มาดูทะเบียนรถ เพื่อจะนำไปเสี่ยงโชคเช่นกัน