เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 2 เม.ย.ที่ทำเนียบ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายนว่าในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไม่กล้าตอบว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน แต่การทำงานตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการปรับบทบาทการทำงานจากการทำงานเชิงรับเป็นการทำงานเชิงรุก แม้รายละเอียดบางเรื่องมีความผิดพลาด แต่ละอย่างก็มีการแก้ไขปัญหาและมีความก้าวหน้า แต่ทั้งนี้ก็พร้อมที่จะให้คำตอบ แล้วพร้อมที่จะรับฟังคำติชมจากฝ่ายค้าน หากฝ่ายค้านมีข้อสงสัยหรือตั้งข้อสังเกตการณ์

เมื่อถามว่ากรอบเวลาที่กำหนดให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจงนั้นเหมาะสมหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่แต่ละรัฐมนตรี บางท่านอาจจะต้องใช้เวลาในการชี้แจงมากขึ้น แต่ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะพยายามใช้เวลาให้กระชับมากที่สุด ซึ่งได้เวลาชี้แจง 4 ชั่วโมง ก็จะมีการจัดสรรเวลาให้เหมาะสม เมื่อถามอีกว่าการอภิปรายครั้งนี้มีการพาดพิง ในส่วนของบุคคลที่ 3 ซึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไม่ควรที่จะพาดพิง ถึงบุคคลที่ 3 เป็นอันขาด ซึ่งตนมองเรื่องนี้ว่า หากพูดในแง่ดี คงจะไม่มีใครต่อว่า แต่หากมีการพาดพิง ในกรณีที่อาจเกิดความเสียหายกับบุคคลที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ส่วนตัวมองว่าควรที่จะต้องระมัดระวัง เนื่องจากบุคคลที่ 3 ไม่สามารถเข้ามาชี้แจงในสภาได้ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าการทำงานครบ 7 เดือน เหมาะสมกับการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพรรคการนำ อย่างพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ว่ามีแนวทางอย่างไร แต่เชื่อว่าก็คงจะมีการหารือและพูดคุยกัน