นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและค่าบริการในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่า  จากการวิเคราะห์ข้อมูลราคาสินค้าและบริการใน 7 หมวดจำเป็นต่อการครองชีพ รวม 430 รายการ ที่ใช้จัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือเงินเฟ้อ ได้แก่ หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า หมวดเคหสถาน หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล หมวดพาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ พบว่า เดือนก.ย.64 เทียบเดือนก.ย.63 มีสินค้าและบริการที่ราคาเพิ่มขึ้น 204 รายการ ราคาลดลง 157 รายการ และราคาไม่เปลี่ยนแปลง 69 รายการ

สินค้าที่ราคาสูงขึ้น เช่น น้ำมันปาล์ม 1 ลิตร ราคาเฉลี่ยเดือนก.ย.64 อยู่ที่ 47.03 บาท เพิ่มขึ้น 11.11 บาท จากเดือนก.ย.63 ของปีก่อน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30.43 บาท เพิ่มขึ้น 8.07 บาท ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น เนื้อหมูสันนอก กก. ละ 153.74 บาท ลดลง 8.83 บาท, ข้าวสารเจ้า กก.ละ 39.54 บาท ลดลง 4.90 บาท ค่าธรรมเนียมการศึกษา โรงเรียนรัฐบาล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ที่ 5,232.32 บาท ลดลง 178.75 บาท ขณะที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ค่าโดยสารรถประจำทาง ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 

นายรณรงค์กล่าวว่า  การที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าค่าครองชีพสูงขึ้น ทั้งที่เงินเฟ้อทั่วไปในเดือนก.ย.64 เพิ่มขึ้นเพียง 1.68% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.63 เป็นเพราะค่าใช้จ่ายในสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันสูงขึ้น ได้แก่ กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง อาหารเช้า อาหารตามสั่ง รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายดูแลราคาสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณ เงินเฟ้อ เงินฝืด หรือความซบเซาทางเศรษฐกิจ แต่มีสัญญาณทางบวก จากทั้งการส่งออก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น 

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวหลังหารือร่วมกับห้างสรรพสินค้า ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคว่า ได้ขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้า เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน และขอให้จัดส่งสินค้าไปยังพื้นที่น้ำท่วมอย่างเพียงพอ อย่าให้เกิดปัญหาขาดแคลน รวมถึงขอให้เพิ่มสต็อกสินค้ากลุ่มอาหารและของใช้ประจำวันที่นิยมจัดในชุดถุงยังชีพ เพราะมีความต้องการซื้อไปทำถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนเพิ่มขึ้น และเตรียมสินค้าและแผนจัดส่งให้พร้อมกับสถานการณ์

“จากการขอความร่วมมือดังกล่าว ผู้ประกอบการห้างต่างๆ ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะตรึงราคาขายเดิมแล้ว ยังจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ และจะจัดสินค้ามาหมุนเวียนจัดกิจกรรมลดราคาต่อเนื่อง ถ้าประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาส หรือจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย”