จากกรณี นางศิริลักษณ์ กนกฉันท์ อายุ 53 ปี อสม.หมู่ที่ 32 บ้านหนองคูน้อย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ ว่า ถูกนายคำอี๊ด ขัตติยานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต่อว่าพร้อมใช้ฝ่ามือตบไปที่หลังและลำคอ จนได้รับบาดเจ็บขณะกำลังปฏิบัติแนะนำนเรื่องโควิด-19 พร้อมร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอศีขรภูมิ และสื่อมวลชน เนื่องจากเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ก.ค.นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เปิดเผยภายว่า เรื่องที่ผู้ใหญ่บ้านถูกกล่าวหาว่า ได้ไปทำร้าย อสม.ท่านหนึ่งภายในหมู่บ้านนั้น ตนเองรู้สึกไม่สบายใจและได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปแล้ว ถ้าหากผิดจริง ตนเองคงต้องดำเนินถึงขั้นเฉียบขาด เพราะถือว่ารุนแรงมาก ไปทำร้ายผู้หญิงที่ทำหน้าที่ อสม.ช่วยเหลือชาวบ้าน

“เรื่องทั้งหมด เท่าที่ผมได้รับทราบจากกำนันตลอดจนผู้ใหญ่บ้านชุมชนได้พูดถึงว่า เรื่องนี้มีที่มาที่ไป และอยู่ในระหว่างการดำเนินการถึงกรณีข้อพิพาทกันอยู่” นายกิตติ กล่าว

ด้าน นายคำอี๊ด ขัตติยานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดที่ นางศิริลักษณ์ กล่าวหาว่าตนทำร้ายร่างกายนั้น ตนเองยอมรับว่าได้ใช้มือไปตบที่ไหล่จริง สาเหตุที่ตนเองทุบไปนั้น เพื่อสอบถามว่าได้รายงานเรื่องของไวรัสโควิด-19 ไปยังอำเภอแล้วหรือยัง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ตนเองจึงได้ใช้มือตบไปที่หลัง 1 ครั้ง เพื่อที่จะหยอกเล่น แต่ต้องมากลายเป็นประเด็น เพราะเคยมีเรื่องของพิพาทที่ดิน ที่ตนเองเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนกับญาติพี่น้องของนางศิริลักษณ์ จึงกลายเป็นเรื่อง

จากนั้นนายคำอี๊ด ได้ยกมือไหว้ วอนสื่อมวลชนช่วยนำเสนอเรื่องที่มาที่ไปก่อนที่ตนเองจะลงมือทุบหลังนางศิริลักษณ์ด้วยว่า เป็นเพราะตนเองไปมีเรื่องกับญาติของนางศิริลักษณ์ อสม.จึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมา.