เมื่อวันที่ 20 เม.ย. เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก “สกลธี ภัททิยกุล” หรือนายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ได้โพสต์ข้อความระบุใจความเกี่ยวกับการถูก 2 พิธีกรดัง ได้กล่าวถึงโพสต์ต่างๆ ในอดีตของตนเองที่เป็นการแสดงออกทางอุดมการณ์ทางการเมือง ผ่านรายการ Talking Thailand ซึ่งออกอากาศทางแฟนเพจของ Voice TV เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และ 11 เม.ย.65 โดยใจความในเฟซบุ๊กระบุว่า

กว่า 16 ปีที่อยู่ในการเมือง ตนเข้าใจดีถึงความเป็นบุคคลสาธารณะของผมครับ…ดังนั้นการที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งประชาชนและสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และตนก็ยอมรับและรับฟังเสมอมาเพราะในทุกสังคมก็มีทั้งคนที่ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในหลายสิ่งที่เราทำ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น…การจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องเป็นการติชมโดยสุจริตและไม่เป็นการด้อยค่าหรือด่าทอด้วยจิตใจที่มืดบอดและอคติในตัวบุคคลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งเป็นสื่อมวลชนด้วยแล้ว จรรยาบรรณในการทำหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญครับ หากไร้ซึ่งจรรยาบรรณของสื่อมวลชน คิดอย่างไรพูดอย่างนั้นโดยไม่ผ่านการกลั่นกรองของสมอง ก็ไม่มีค่าพอที่จะเป็นสื่อมวลชนครับ

สืบเนื่องจากรายการ Talking Thailand ซึ่งออกอากาศทางแฟนเพจของ Voice TV เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และ 11 เม.ย.65 ดำเนินรายการโดย นายวิโรจน์ อาลี น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ “คำผกา” ได้กล่าวถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของตน รวมถึงสิ่งที่ผมได้เคยโพสต์ในอดีตด้วยการด้อยค่าและถ้อยคำหยาบคาย เกินกว่าหน้าที่ของสื่อมวลชนจะติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และเป็นที่เชื่อได้ว่า อาจทำให้ผมถูกเกลียดชังจากบุคคลที่ได้รับชมรายการและไม่ทราบเรื่องที่มาที่ไปทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงหาเสียงลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงขอใช้สิทธิทางกฎหมายมอบให้ทนายความไปฟ้องดำเนินคดีบุคคลทั้ง 2 คน รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนตัวตนไม่เคยรู้จักบุคคลทั้ง 2 คนมาก่อน และอยากจะฝากถึงทั้ง 2 คน และผู้เกี่ยวข้องกับรายการดังกล่าวรวมถึงคนที่รับชมรายการว่า ผมไม่เคยปิดบังหรือปฏิเสธตัวตนและอุดมการณ์ที่ผ่านมาของ ตนเชื่อมั่นในสิ่งที่ต่อสู้ร่วมกับคนอีกหลายล้านคนในช่วงเวลานั้น แม้เวลาจะผ่านมาแล้วกว่า 8 ปี ผ่านการต่อสู้กับคดีความที่ติดตัวตนมาจนศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในทุกข้อกล่าวหา แต่กลับกันนั้นในสิ่งที่ตนออกมาต่อสู้ด้วย ศาลกลับพิพากษาว่ามีความผิดหลายคดีต่างกรรมต่างวาระและต่างบุคคล รวมถึงมีการสรุปความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวแล้วกว่า 500,000 ล้านบาท และฟ้องร้องเป็นคดีกว่า 1,000 คดี

ดังนั้นโดยสรุปครับ…ถ้าพวกคุณเห็นด้วยกับสิ่งเหล่านั้นที่เกิดขึ้นว่าเป็นสิ่งที่ถูก สิ่งที่ตนทำเป็นสิ่งที่ผิด จะเชิญชวนให้ใครไม่เลือกผมก็เป็นสิทธิครับ แต่ถ้ามากล่าวให้ร้ายหรือด้อยค่าโดยข้อความหยาบคาย อคติและไร้เหตุผล…ก็เจอกันที่ศาลครับ โดยได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นฟ้องต่อบุคคลทั้ง 2 คน ที่ศาลอาญาในวันศุกร์นี้ครับ

ป.ล.ขอให้ทุกท่านระวังการ comment นะครับ ไม่อยากให้เค้าเอาไปเป็นประเด็นในการฟ้องทุกคนต่อครับ