นับตั้งแต่ที่มีการระบาดของโรคโควิด -19 ส่งผลกระทบทำให้มีคนมาบริจาคเลือดลดลง จากกรณีที่มีคนติดเชื้อบ้าง บางส่วนต้องกักตัว ดังนั้นทำให้คลังเลือดสำรองมีปัญหาขาดแคลนมาตลอด ทำให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ตลอดจนโรงพยาบาลต่าง ๆ อยู่ในภาวะวิกฤติ บางหมู่เลือดขาดแคลนหนักออกมาประกาศรับบริจาคบ่อยครั้ง

จากข้อมูลล่าสุด ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติยังขาดแคลนโลหิตทุกกรุ๊ปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เนื่องใน วันกาชาดโลก 8 พ.ค. 2565 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงถือโอกาสนี้ในการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า วันกาชาดโลก ตรงกับวันที่ 8 พ.ค. ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของนายอังรี ดูนังต์ ผู้ให้กำเนิดกาชาดสากล สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) จึงขอความร่วมมือให้สภากาชาดทั่วโลกจัดกิจกรรมเพื่อระลึกถึงนายอังรี ดูนังต์ ผู้ก่อตั้งองค์กรกาชาด และเพื่อยกย่องอาสาสมัครสมาชิกและเจ้าหน้าที่กาชาดทุกคนที่ทุ่มเททำงาน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ยากของมวลมนุษยชาติ ตลอดจนเฉลิมฉลองความสำเร็จในการทำงานของสภากาชาด

โดยในปี 2565 ได้กำหนดแนวคิดของวันกาชาดโลกว่า We are all Humankind : Believe in the power of kindness ใจดี มีเมตตา มีพลัง เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับรู้ถึงการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการบริจาคโลหิต เนื่องจากโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น และมีความต้องการใช้ทุกวัน หากขาดแคลนโลหิต จะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยอีกจำนวนมาก และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ปริมาณการจัดหาโลหิตสำรองลดลงเกินกว่าครึ่ง ไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนรวมพลังช่วยกาชาด บริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการบริจาคเลือดในสถานการณ์โควิด–19 ขอความร่วมมือผู้บริจาคเลือด คัดกรองและประเมินตนเอง ก่อนมาบริจาคโลหิต โดย 1. กรณีติดเชื้อไวรัสโควิดงดบริจาคเลือด 28 วัน หรือ 4 สัปดาห์ นับตั้งแต่หายป่วย และไม่มีอาการ 2.กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโควิด และให้เว้นไป 7 วัน หลังจากนั้นสามารถบริจาคเลือดได้ แต่หากมีอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน ขอให้หายดีก่อน เว้น 7-14 วัน ตามความรุนแรงของอาการ

สำหรับการเตรียมความพร้อมในการบริจาคเลือด “ก่อนบริจาค” นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง สุขภาพแข็งแรง หากอยู่ระหว่างรับประทานยารักษาโรค ให้แจ้งแพทย์/พยาบาล ผู้ตรวจคัดกรองสุขภาพทุกครั้ง ทั้งนี้สามารถรับประทานอาหารก่อนบริจาคได้ แต่หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงก่อนบริจาค 6 ชั่วโมง เพราะจะทำให้พลาสมามีสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง งดสูบบุหรี่ 1 ชั่วโมง ส่วนการดื่มนํ้า สามารถดื่มก่อนบริจาคได้ 30 นาที ประมาณ 3-4 แก้ว ซึ่งเท่ากับปริมาณเลือดที่เสียไปในการบริจาค จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดภาวะเป็นลมจากการบริจาคได้

“หลังบริจาค” ให้นอนพักที่เตียง 5 นาที หากไม่มีอาการผิดปกติ จึงลุกจากเตียง และไปนั่งพัก 10-15 นาที พร้อมดื่มเครื่องดื่ม และรับประทานอาหารว่าง ให้ดื่มนํ้าให้มากกว่าปกติ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง รับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก วันละ 1 เม็ดหลังอาหารจนหมด เพื่อชดเชยธาตุเหล็กที่เสียไปจากการบริจาคเลือด เพื่อให้สามารถบริจาคได้อย่างสมํ่าเสมอ หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงที่สูง อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนและเป็นลมได้ หลีกเลี่ยงการใช้แขนข้างที่บริจาคเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการไปในบริเวณที่แออัด และมีอากาศร้อนอบอ้าว งดกิจกรรมหรือทำงานที่มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว ความสูง ความลึก เครื่องจักรกล และงดออกกำลังกายที่ทำให้เสียเหงื่อ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง.

คอลัมน์     :  คุณหมอขอบอก
เขียนโดย  :  อภิวรรณ เสาเวียง